Site icon Motherhood.co.th Blog

“เนื้อสัตว์ลดราคา” ตามซูเปอร์ปลอดภัยต่อสุขภาพหรือเปล่า ?

ซื้อเนื้อสัตว์ลดราคา

เนื้อสัตว์ลดราคาไม่ดีต่อสุขภาพเราจริงเหรอ ?

“เนื้อสัตว์ลดราคา” ตามซูเปอร์ปลอดภัยต่อสุขภาพหรือเปล่า ?

ยุคสมัยนี้อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดนะคะ แม่บ้านหลายท่านจึงนิยมช็อปปิ้ง “เนื้อสัตว์ลดราคา” รวมทั้งอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานชนิดอื่น ๆ ที่ติดป้ายเหลืองลดราคาในช่วงหัวค่ำตามซูเปอร์มาร์เก็ต แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าเนื้อสัตว์หรืออาหารที่ลดราคาเหล่านั้นจะมีคุณภาพที่ลดลงหรือเปล่า นี่คือวิธีที่คุณสามารถบอกตัวเองได้ว่า เนื้อสัตว์ที่ลดราคาอย่างมากเหล่านั้นเป็นไอเท็มลดราคาที่คุ้มค่าสำหรับอาหารค่ำแสนอร่อยของคนในครอบครัว

หลายคนอาจจะภูมิใจในการเป็นนักช็อปมืออาชีพที่ช็อปได้เก่งในงบประมาณอันจำกัด คุณอาจจะยอมรับเอาเนื้อสัตว์ที่ลดราคาถึง 30% ในขณะที่เพื่อนของคุณบางคนรู้สึกสยองกับมัน คุณอาจจะยอมแลกราคาที่ถูกลงกับเนื้อวัวที่สีดูจืดกว่าเนื้อแพ็คใหม่ที่อยู่ข้าง ๆ เล็กน้อย คุณอาจจะภูมิใจในความใจกว้างของตัวเองและการเป็นนักล่าหาของราคาประหยัด แต่สิ่งสำคัญคือคุณควรต้องเรียนรู้วิธีการที่จะทราบว่าเนื้อสัตว์ที่บรรจุมาในหีบห่อยังคงสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย

วันที่ที่ระบุในฉลากบอกอะไรเรา

ความแตกต่างของประเภทวันหมดอายุ ?

วันที่ที่ระบุให้บนแพ็คเนื้อเป็นเหมือนแค่แผ่นโน้ตที่แปะไว้เพื่อให้ผู้ค้าปลีกตรวจสอบได้ว่า แพ็คที่เก่ากว่าจะต้องถูกเลื่อนมาวางไว้หน้าสุดและเตรียมตัวที่จะนำไปลดราคาต่อ สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายที่ดีสำหรับคุณในการตามล่าหาของลดราคาและรู้ว่าเมื่อไหร่ของใหม่จะถูกนำออกมาวาง เพราะเนื้อแพ็คเก่าจะถูกติดป้ายลดราคา เพื่อเป็นการเคลียร์ให้มีพื้นที่ว่างบนชั้นสำหรับเนื้อแพ็คใหม่ ๆ

ป้ายบอก “Best before” หรือ “Use by” เป็นคำแนะนำสำหรับคุณภาพสูงสุดของสินค้าเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งนั่นคือ ร้านค้าขอให้คุณอย่าตัดสินเนื้อของพวกเขาจากเนื้อสัตว์ที่ระบุวันไว้ตรงกับวันนี้ เนื้อเหล่านี้อาจไม่อร่อยหรือชุ่มฉ่ำเหมือนเนื้อสัตว์ที่เพิ่งฆ่าและนำออกมา แต่สามารถบริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบหากบรรจุและจัดเก็บอย่างเหมาะสม ถ้ามันเป็นแบบสุญญากาศ ไม่รั่วซึม และเก็บไว้ในตู้เย็น เนื้อส่วนนี้จะเก็บไว้ได้ 2-3 วันหลังจากที่คุณนำกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าวันที่เหล่านี้บ่งบอกถึงคุณภาพเท่านั้น ไม่ใช่ความปลอดภัย หากได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เนื้อของคุณควรจะดีเหมือนใหม่เป็นเวลาหลายวันเกินกว่าที่สติกเกอร์บอกไว้

กำหนดวันคุณภาพอย่างไร ?

มันไม่มีมาตรฐานสากลสำหรับการติดฉลาก ซึ่งหมายความว่าไม่มีมาตรฐานใด ๆ ที่กำหนดไว้สำหรับวันที่คุณภาพของเนื้อสัตว์สูงที่สุด ในทางกลับกัน ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกจะเลือกกำหนดเวลาของวันบรรจุให้เป็นพื้นฐานของการตัดสินใจว่า “คุณภาพที่ดีที่สุด” เป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม มีแนวทางปฏิบัติบางประการตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอยู่เหมือนกัน จากข้อมูลของ USDA ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์คงอยู่ได้ดี ได้แก่ ระยะเวลาและอุณหภูมิที่อาหารถูกจัดจำหน่ายระหว่างการจัดจำหน่าย ผ่านการจัดแสดงอาหารและประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ ยิ่งบรรจุภัณฑ์ดีและสารกันบูดในสูตรมากเท่าไหร่ วันที่ขายก็จะยิ่งนานขึ้นเท่านั้น

สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมไก่ที่คุณได้รับจากร้านหนึ่งอาจอยู่ในตู้เย็นได้ไม่นานเท่าไก่จากร้านอื่น ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้ทำอะไรแตกต่างไปจากนี้ หรือทำไมไส้กรอกบางชนิดจึงคงสีและรสชาติที่ดีนานกว่าที่อื่น พวกมันเป็นเพียง (อย่างที่ระบุไว้บนฉลาก) คุณภาพดีกว่าก่อนวันที่พิมพ์เอาไว้ โดยอาศัยการบรรจุและการจัดการ  หลังจากนั้นคุณภาพจะเริ่มตกต่ำ และมันก็ไม่ได้มีรสชาติหรือให้ความรู้สึกดีสักเท่าไหร่

เรานิยมเลือกเนื้อจากสีของมันที่แดงสด

ตัดสินเนื้อด้วยสีของมัน

เมื่อพูดถึงเนื้อสดที่ปราศจากความเสี่ยง เนื้อวัวควรเป็นสีแดง เนื้อหมูควรเป็นสีชมพู และเนื้อไก่ควรเป็นสีชมพูอ่อนใช่ไหม ? ไม่จำเป็น จริงอยู่ที่สีเหล่านี้เป็นสีในอุดมคติของเนื้อสัตว์ทั่วไปเหล่านี้ แต่รูปแบบอื่นที่ต่างออกไปไม่ควรถูกส่งไปที่ถังขยะ เฉดสีเหล่านี้ค่อนข้างมีอายุสั้นในความเป็นจริง และต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาอย่างดี เพื่อรักษาไว้เช่นห่อพลาสติกที่จะให้ออกซิเจนผ่านไปได้ เพราะสีแดงและสีชมพูที่พวกเราเคยเห็นนั้นก็ใช่ว่าจะ “ธรรมชาติ” เช่นกัน มันเป็นเพียงผลของไมโอโกลบินที่คงอยู่ในเซลล์เนื้อเยื่อเมื่อโปรตีนเหล่านี้สัมผัสกับออกซิเจน

สีของเนื้อสัตว์เมื่อถูกฆ่านั้นได้รับอิทธิพลจากตัวสัตว์เองด้วยเช่นกัน อายุที่มากขึ้น เป็นตัวผู้หรือตัวเมีย มีความแอคทีฟแค่ไหน หรือกินอาหารเฉพาะหรือไม่ ? สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้เนื้อมีสีเข้มขึ้นได้ การเปิดรับแสงในการจัดเก็บยังสามารถเพิ่มโทนสีน้ำตาลให้กับเนื้อแดงของคุณเช่นเดียวกับการเกิดออกซิเดชันของเนื้อย่าง ในอีกด้านหนึ่ง เนื้อบดอาจเป็นสีเทาเนื่องจากขาดออกซิเจน ส่วนสีที่ดูไม่ค่อยน่าปลื้มสักเท่าไหร่คือสีเขียวเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบ่มแล้วซึ่งอาจมีสีเหลือบ แต่มันก็ไม่ได้แสดงถึงคุณภาพที่ลดลงหรือความปลอดภัยของเนื้อสัตว์ มันเกิดขึ้นเกิดจากการสลายตัวของเม็ดสีในสารประกอบจากเนื้อสัตว์ เช่น เหล็กและไขมัน เมื่ออากาศและแสงสัมผัสลงบนโมเลกุลเหล่านั้น

เนื้อบดเป็นสีเทาเพราะขาดออกซิเจน

นอกจากนี้ เนื้อสัตว์ยังสามารถซีดจางและสูญเสียความมีชีวิตชีวาจากการถูกแช่แข็งหรือเปลี่ยนระบบทำความเย็น สัตว์ปีกดิบมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันมีแนวโน้มที่จะมีสีอ่อนและสีอาจมีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีฟ้าอมขาว และทุกเฉดสีที่อยู่ระหว่างนั้น

สิ่งนี้มีความหมายสำหรับคุณในฐานะผู้บริโภคคือคุณไม่ควรละทิ้งหรือโยนเนื้อสัตว์เพียงเพราะมันดูไม่สดใสอีกต่อไป เนื้อลดราคาเหล่านั้นไม่ได้เน่าเปื่อย พวกมันอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางเคมีบางอย่างเนื่องจากสภาพแวดล้อม และหากสัญญาณอื่น ๆ ทั้งหมดบ่งชี้ว่ามันยังไม่เน่าเสีย มันก็จะมีรสและสภาพที่เหมือนกันเมื่อปรุงสุกแล้ว เพียงแค่นำมันมาประกอบอาหารทันที คุณก็จะอยู่ในระยะที่ยังปลอดภัย

เลือกจากการดม

หากจะทดสอบคุณภาพของเนื้อสัตว์ ก็ต้องใช้การดมทดสอบที่อะไรก็เอาชนะไม่ได้

ตัวบ่งชี้การเน่าเสียของเนื้อสัตว์ที่ยิ่งใหญ่และชัดเจนที่สุดคือถ้ามีกลิ่นที่ต่างออกไปจากที่ควรจะเป็น มันจะเปรี้ยวนิด ๆ และความรู้สึกของคุณจะบอกเลยว่านี่ไม่โอเค สาเหตุนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เช่น ยีสต์ รา และแบคทีเรียที่เน่าเสีย ซึ่งทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อสัตว์และสามารถทำให้มันมีรสชาติที่ประหลาดเอาการ สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดตั้งแต่เวลาที่เริ่มเชือดสัตว์ แต่อย่างที่รู้กัน บรรจุภัณฑ์ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นมิตรกับการเติบโตประเภทนี้มากเกินไป ยิ่งมีสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการเน่าเสียของแบคทีเรีย เช่น ระดับความชื้นที่เหมาะสมและอุณหภูมิต่ำ พวกมันก็จะยิ่งเติบโตได้เร็วขึ้น และเนื้อของคุณก็จะเน่าเร็วขึ้นเท่านั้น

วิธีดมกลิ่นยังคงได้ผลดี

อย่างไรก็ตาม แม้จะดูน่าสับสน มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะป่วยจากสิ่งนี้เช่นกันหากเนื้อเหล่านั้นได้รับการจัดการอย่างปลอดภัยและแช่เย็นอย่างสม่ำเสมอ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะอยากกินมันทั้งอย่างนั้นอยู่ดี เพราะมันเป็นแบคทีเรียก่อโรคที่จะทำให้คุณป่วยได้ ซึ่งรวมถึงเชื้อซัลโมเนลลา อีโคไล ลิสเทอเรีย และเชื้อในตระกูลเดียวกัน และแม้ว่าไวรัสจะไม่สามารถเติบโตในอาหารได้ในทางเทคนิค แต่ก็สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสพื้นผิวได้ทันทีในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเป็นหวัดได้ เช่น จากการกินอาหารที่มีอาการจามลงไป

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม หากมีกลิ่นเหม็นให้โยนทิ้ง และถ้ามันเหนียว เหนอะ เป็นเมือก หรือไม่แห้ง มันก็เหมือนอยู่ที่เส้นแบ่งแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณเต็มใจที่จะเดิมพันหรือเปล่า หากรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน โอกาสที่คุณจะเจอแจ็คพ็อตก็มีมาก

ลงเล่นอย่างปลอดภัยในโซนอันตราย

นี่คือวิธีที่เราจะเอาชนะระบบนี้ได้

แม้จะแช่แข็ง แต่นำออกมาใช้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

ดังที่เราได้กล่าวย้ำไปแล้วว่าเนื้อสัตว์ประเภทต่าง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับระยะเวลาที่เหมาะสำหรับการซื้อและความปลอดภัยในการซื้อ จากวันที่พิมพ์ระบุเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส ในบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนา ไม่รั่วซึม และเก็บให้พ้นจากแสง

สำหรับการนำไปใช้งาน ก่อนอื่นต้องเตรียมประกอบอาหารให้ใกล้กับวันที่ซื้อมามากที่สุด โดยทั่วไปคุณสามารถยืดเวลาไปได้ถึง 4 วัน หลังจากวันที่ติดฉลาก ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ก็ควรเก็บไว้ที่ชั้นล่างสุดเพื่อไม่ให้น้ำจากเนื้อหยดลงไปในของอย่างอื่น และเก็บให้ค่อนไปทางด้านหลังซึ่งเป็นส่วนที่เย็นที่สุดของตู้เย็น

โดยทั่วไปแล้ว วัตถุดิบจะเก็บไว้ได้เป็นเวลา 6-8 เดือน สำหรับเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเก็บเบคอน เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อแกะ ไก่งวง และแม้แต่ปลาได้นานกว่าครึ่งปีในช่องฟรีซของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่คุณแช่แข็ง เพียงตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันถูกทำให้เป็นมัมมี่ในภาชนะที่ปิดสนิทเพื่อเพิ่มเวลาในการจัดเก็บ

สำหรับเนื้อสัตว์ที่ผ่านการบ่มที่ยังไม่ได้เปิด เช่น ฮอทดอก ซาลามี่ และเปปเปอโรนี ยังสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งและจะกลายเป็นของใหม่หากนำออกมาก่อนเครื่องหมายหกเดือน

การละลายน้ำแข็งก็ต้องทำให้ถูกวิธีเช่นกัน

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องปฏิบัติคือการละลายที่เหมาะสมหากคุณใช้วิธีแช่แข็ง วางแผนที่จะปรุงภายในสองวันหลังจากการละลายตู้เย็นหากมันดิบ และหากแผนของคุณเปลี่ยนและคุณต้องโยนมันกลับเข้าไปในช่องแช่แข็ง ให้คาดไว้เลยว่าเนื้อจะเสียคุณภาพและรสชาติไปบ้าง

หากคุณกำลังล้างน้ำแข็งออก ให้ปรุงทันที เนื่องจากการปรุงเนื้อดิบบางส่วนจะทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรียที่ดี แม้ว่าคุณจะต้องนำไปแช่แข็งอีกครั้ง ก็ควรปรุงให้สุกก่อนทำ กฎเดียวกันนี้ใช้สำหรับการละลายด้วยน้ำเย็น เช่นเดียวกับการละลายน้ำแข็งด้วยไมโครเวฟ เพียงระวังการรั่วไหลของน้ำเข้าไปในภาชนะบรรจุเนื้อสัตว์ ซึ่งอาจทำให้เนื้อแตกเและดูดซับน้ำหรือปนเปื้อนแบคทีเรีย

อย่างที่เรารู้กันดี การซื้อของลดราคานั้นเป็นหนทางที่ช่วยให้เราประหยัด คุณสามารถเก็บสต็อกในตู้แช่แข็งได้อย่างง่ายดายด้วยการซื้ออาหารสดลดราคาเหล่านี้ แต่อย่าลืมที่จะใช้มันให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัย

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th