จะเป็นไรมั้ย ถ้า “กินคีโตตอนท้อง” ?
ทารกในครรภ์ของคุณกำลังพยายามที่จะเติบโต การ “กินคีโตตอนท้อง” หรืออาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำมากอาจไม่ใช่หนทางที่คุณควรจะเดินไปในตอนนี้ ท่ามกลางกระแสของอาหารคีโตเจนิกกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก และมันเป็นอาหารที่มีการค้นหามากที่สุดทางออนไลน์ แพทย์หลายคนแนะนำให้รับประทานอาหารคีโตเจนิกสำหรับเงื่อนไขทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) โรคลมชัก และโรคเบาหวาน แต่อาหารคีโตเจนิกนั้นปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ? นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ ไม่ว่าคุณกำลังควบคุมอาหารและเพิ่งตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์อยู่และสงสัยว่าการรับประทานอาหารคีโตเจนิกเป็นความคิดที่ดีหรือไม่
อาหารคีโตเจนิกคืออะไร ?
อาหารคีโตเจนิกเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำลงไปอีกระดับหนึ่ง หากคุณบริโภคอาหารโดยเฉลี่ย คุณอาจได้รับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 250 กรัมต่อวัน อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำยอดนิยม เช่น Paleo และ Atkins จะลดปริมาณลงเหลือประมาณเพียง 150 กรัมต่อวันเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่ปริมาณขั้นต่ำ 175 กรัมต่อวัน ที่แนะนำในระหว่างตั้งครรภ์
ในอาหารคีโตเจนิก คุณกินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 20 กรัมต่อวันเท่านั้น เพื่อให้เห็นภาพ แอปเปิ้ลลูกเล็กเพียง 1 ลูก ก็มีคาร์โบไฮเดรตถึง 24 กรัม เข้าไปแล้ว อย่างที่คุณเห็น อาหารประเภทนี้นี้มีการจำกัดคาร์โบไฮเดรตอย่างมาก
แทนที่จะกินคาร์โบไฮเดรต ผู้ที่กินนอาหารคีโตเจนิกจะได้รับแคลอรี่จากไขมันถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขากินชีส น้ำมัน อะโวคาโด เนื้อสัตว์ ถั่ว และเมล็ดพืช เป็นจำนวนมาก อาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่อาจไม่ได้ให้สารอาหารทั้งหมดที่คุณต้องการในระหว่างตั้งครรภ์
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แหล่งที่มาของไขมันส่วนใหญ่จะถูกลดลง ซึ่งรวมถึง
- ผลิตภัณฑ์นม
- ธัญพืช
- ผักแป้ง
- ผลไม้
- พืชตระกูลถั่ว
- การปรุงด้วยน้ำตาล
และนี่คือสิ่งที่จะยังเหลืออยู่ในจานของคุณ
- ผักคาร์โบไฮเดรตต่ำ
- น้ำมัน
- ครีมและชีส
- ปลา เนื้อ และไข่
- อะโวคาโด
- เมล็ดพืชและถั่วเปลือกแข็ง
ว่ากันตามตรงแล้ว การรับประทานอาหารวิธีนี้ทำให้การรับประทานอาหารเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น ด้วยตัวเลือกที่จำกัด การบริโภคอาหารของคุณก็มีจำกัด แต่สิ่งที่ผู้คนควรระวังคือการรับประทานอาหารประเภทนี้อาจนำไปสู่การขาดสารอาหารได้ เนื่องจากอาหารหลายกลุ่มถูกตัดออกจากอาหารประจำวัน
อาหารคีโตเจนิกปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ ?
การตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับผู้มีครรภ์ คุณแม่มีครรภ์จะได้รับคำสั่งตลอดเวลาว่าอย่ากินมากเกินไปหรือเร็วเกินไป ให้ลดน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ ระวังสิ่งที่คุณกิน และคำเตือนอื่นที่คล้ายกัน เรื่องของเรื่องก็คือ การควบคุมน้ำหนักเป็นสิ่งที่ท้าทายเมื่อตั้งครรภ์
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้ตั้งครรภ์บางคนจึงหันไปรับประทานอาหารคีโตเจนิกขณะตั้งครรภ์ เพื่อควบคุมน้ำหนักและมีสุขภาพดีตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ สิ่งนี้ทำให้เราเกิดคำถามว่าการทำเช่นนี้เป็นอันตรายในขณะตั้งครรภ์หรือไม่
มีความกังวลมากมายเกี่ยวกับอาหารคีโตเจนิกในระหว่างตั้งครรภ์ ประการแรก เป้าหมายของการรับประทานอาหารคีโตคือการเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ซึ่งก็คือเมื่อร่างกายไม่มีน้ำตาลกลูโคส (ซึ่งจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง) เพียงพอสำหรับพลังงาน ดังนั้น จึงเผาผลาญไขมันแทน แต่ในช่วงไตรมาสแรก ร่างกายของคุณจะพยายามกักเก็บไขมันไว้เพื่อเป็นพลังงานที่จะใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในระยะต่อ ๆ ไป
อาหารคีโตเจนิกยังส่งผลให้เกิดการสะสมของคีโตน (ผลพลอยได้จากการสลายไขมันที่ใช้เป็นพลังงานเมื่อไม่มีกลูโคสอยู่รอบ ๆ ) ซึ่งสามารถข้ามผ่านไปยังรกได้อย่างอิสระ เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายจะสร้างคีโตนในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าคีโตนจำนวนมากจะมีผลอย่างไรต่อทารกในครรภ์ที่กำลังพัฒนา
ยังไม่มีการทดลองเกี่ยวกับอาหารคีโตเจนิกระหว่างการตั้งครรภ์ด้วยตัวแปรทั้งแบบสุ่มและควบคุม ดังนั้น จึงไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัย แต่สมองของทารกในครรภ์ต้องการน้ำตาลกลูโคสเพื่อการทำงานและการพัฒนา และการบังคับให้สมองที่กำลังพัฒนาเปลี่ยนเป็นแหล่งจ่ายพลังงานคีโตนอาจทำให้เกิดผลเสียตามมา
แม้ว่าจะยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับอาหารคีโตเจนิกในหญิงตั้งครรภ์ด้วยเหตุผลทางจริยธรรม แต่ก็มีการทดลองกับหนูจำนวนหนึ่งและผลลัพธ์ก็ไม่ดีนัก การศึกษาในหนูที่ตั้งครรภ์พบว่า การกินอาหารคีโตเจนิกมีผลต่อการทำงานของตัวอ่อนและการพัฒนาอวัยวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวใจและสมองซึ่งอาจส่งผลเสียในวัยผู้ใหญ่ อวัยวะที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้องอาจส่งผลให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในภายหลัง รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ด้วย
การตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารคีโตในการตั้งครรภ์ของหนูพบว่า ในระยะหลังของการตั้งครรภ์รกจะเพิ่มจำนวนตัวขนส่งคาร์โบไฮเดรต เพื่อให้แน่ใจว่ามีน้ำตาลกลูโคสเพียงพอสำหรับทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต เนื่องจากอาหารคีโตเจนิกมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ จำนวนตัวขนส่งคาร์โบไฮเดรตที่เพิ่มขึ้นจึงไร้ประโยชน์เพราะมีคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอที่จะถ่ายโอน ผลของการรับประทานอาหารคีโตในขณะตั้งครรภ์คือความผิดปกติของการเจริญเติบโต รวมถึงสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม ฮิปโปแคมปัส และเปลือกสมองใหญ่ ที่ลดปริมาณลง
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยระบุว่ามีคีโตซีสและผลการตั้งครรภ์ที่คล้ายกันในทารกของมนุษย์ แต่ควรคำนึงถึงการศึกษานี้และพิจารณาว่าอะไรเป็นอันตรายขณะตั้งครรภ์และสิ่งใดที่ไม่เป็นอันตราย
มีการศึกษาอีกตัวซึ่งมุ่งเน้นไปที่หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยที่นักวิจัยต้องการความเชื่อมโยงระหว่างพัฒนาการทางจิตใจของทารกและระดับคีโตนของมารดา
โรคเบาหวานถูกพบว่าทำให้ระดับคีโตนในเลือดเพิ่มขึ้นเมื่อไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม จากการศึกษาพบว่าเด็กที่เกิดจากมารดาที่มีไขมันและคีโตนในร่างกายสูงกว่าจะมีไอคิวต่ำกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารคีโตขณะตั้งครรภ์สามารถเป็นอันตราย
การศึกษานี้ทำให้ข้อโต้แย้งที่ว่าอาหารคีโตเจนิกเป็นอันตรายในขณะตั้งครรภ์นั้นมีน้ำหนักมากขึ้น ประการแรก การลดน้ำหนักอาจเป็นอันตรายในขณะตั้งครรภ์ แน่นอนว่าหญิงตั้งครรภ์จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องหมายของทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงและเติบโต ในความเป็นจริง คุณแม่ที่น้ำหนักไม่เพิ่มมีแนวโน้มที่จะมีทารกที่คลอดก่อนกำหนด
อาหารคีโตเจนิกกับการตั้งครรภ์: โภชนาการที่ไม่ถูกต้อง
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ทานอาหารคีโตเจนิกเพื่อลดน้ำหนัก ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโดยทั่วไปไม่แนะนำให้ลดน้ำหนักระหว่างการตั้งครรภ์ แต่คุณควรมุ่งเน้นไปที่การบำรุงร่างกายและลูกน้อยที่กำลังเติบโต การจำกัดเมล็ดธัญพืช ถั่ว ผลไม้ และผักบางชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จะทำให้คุณขาดไฟเบอร์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ ยังมีแง่มุมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งว่าเหตุใดคีโตจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง การตั้งครรภ์มักทำให้เกิดอาการท้องผูกและคุณต้องการใยอาหารเพื่อต่อสู้กับอาการนี้ นอกจากนี้ หากคุณรู้สึกคลื่นไส้และต้องการเคี้ยวแครกเกอร์ธรรมดาสักกำมือ คุณไม่สามารถรับประทานอาหารคีโตเจนิกได้เนื่องจากแครกเกอร์มีคาร์โบไฮเดรตจำนวนมาก
อาหารคีโตเจนิกสำหรับเงื่อนไขทางการแพทย์
แพทย์และนักกำหนดอาหารอาจแนะนำให้รับประทานอาหารคีโตเจนิกเพื่อรักษาโรคลมชัก เบาหวาน และ PCOS ในผู้ที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หากคุณกำลังรับประทานอาหารคีโตเจนิกด้วยเงื่อนไขทางการแพทย์ คุณอาจสงสัยว่าคุณสามารถรับประทานมันต่อไปในระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้งดคีโตในสถานการณ์นี้ แต่หากคุณต้องการควบคุมน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้แพทย์ทำงานร่วมกับนักโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมแทน มีเพียงผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือเท่านั้นที่สามารถให้คำแนะนำคุณได้ หากจำเป็นต้องลดหรือเพิ่มน้ำหนักในระหว่างตั้งครรภ์ ก่อนเริ่มรับประทานอาหารตามแนวทางใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน โปรดจำไว้ว่าตอนนี้คุณมีทารกที่อยู่ในความดูแล ดังนั้น คุณอาจต้องคิดถึงทางเลือกของคุณอย่างละเอียด เพราะความปลอดภัยของทารกเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง คุณมีโอกาสเพียงครั้งเดียวในการทำให้ลูกน้อยของคุณเริ่มต้นชีวิตอย่างดีที่สุด
การตั้งครรภ์อาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ด้วยความช่วยเหลือของครอบครัวและผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นไปได้ที่คุณจะมีสุขภาพที่ดีโดยไม่ต้องรับประทานอาหารคีโตเจนิกขณะตั้งครรภ์
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th