Site icon Motherhood.co.th Blog

ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนท้อง ทำได้มั้ย ? ปลอดภัยหรือเปล่า ?

ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนท้องได้ไหม

ท้องอยู่ แต่จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนได้เหมือนเดิมมั้ยนะ ?

ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนท้อง ทำได้มั้ย ? ปลอดภัยหรือเปล่า ?

การขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมกับความเสี่ยงและข้อควรระวังในตัวเอง แต่การ “ขี่มอเตอร์ไซค์ตอนท้อง” นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คำถามเกี่ยวกับความเสี่ยงและความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์เป็นหัวข้อที่มีความละเอียดอ่อนสูง ผู้คนมากมายเชื่อกันว่ารถจักรยานยนต์เป็นเครื่องจักรแห่งความตาย และกล่าวว่าพวกเขาจะไม่มีวันขี่มอเตอร์ไซค์ตราบเท่าที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ ในขณะที่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็มักกล่าวกันว่ามอเตอร์ไซค์อันตรายพอ ๆ กับคนที่ขับรถข้าง ๆ คุณนั่นแหละ

เมื่อพูดถึงการขี่มอเตอร์ไซค์ขณะตั้งครรภ์ แนวคิดทั้งหมดเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ก็กลายเป็นคำถาม แน่นอน ผู้ที่ขี่อยู่แล้วจะบอกคุณว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้อันตรายไปกว่าการขับรถหากคุณสวมใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสม แต่ข้อโต้แย้งก็ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด เนื่องจากเหตุการณ์มากมายจากรถจักรยานยนต์ที่ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่าอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์

ในประเทศเรามีหลายครัวเรือนที่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะหลักของครอบครัว ทำให้บางครั้งผู้มีครรภ์เองก็ขี่ออกไปซื้อของกินหรือของใช้ใกล้ ๆ บ้าน เชื่อว่าหลายคนก็ต้องผ่านตาภาพนี้กันมาบ้าง แต่ว่ามันปลอดภัยจริงหรือ วันนี้ MTH จะพาไปทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งกันค่ะ

ปลอดภัยไหมที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ขณะตั้งครรภ์ ?

การขี่มอเตอร์ไซค์ระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ เป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่ดีสำหรับคุณและลูกน้อย พยายามหลีกเลี่ยงการขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากคุณจะเสียการทรงตัวได้ง่ายขึ้นในช่วงเวลานี้

อย่างไรก็ตาม คุณมักจะมีความเสี่ยงที่จะถูกรถคันอื่นชน การทำเช่นนี้อาจทำให้ทารกในครรภ์ได้รับบาดเจ็บได้ ดังนั้นคุณอาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในโรงรถเป็นเวลาหนึ่งหรือเก้าเดือน

มอเตอร์ไซค์อันตรายแค่ไหน ?

เราไม่ได้อยากให้มันกลายเป็นการโต้วาทีขนานใหญ่ แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์มากกว่าในรถยนต์ มีสถิติและการศึกษามากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผลการศึกษาส่วนใหญ่สรุปได้ว่ารถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงมากกว่ารถยนต์อย่างแท้จริง

เป็นความจริงที่รถจักรยานยนต์เป็นอันตราย แต่ยานพาหนะทุกประเภทมีอันตรายทั้งนั้นหากผู้ขับขี่ประมาท แต่รถจักรยานยนต์อันตรายเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่คุณไม่มีโครงนิรภัย เข็มขัดนิรภัย หรือถุงลมนิรภัยติดตัวเท่านั้น รถจักรยานยนต์ชนกันบางครั้งยังทำให้ผู้ขับขี่กระเด็นออกจากจักรยานของตนโดยลอยออกไปในระยะทาง 20-30 เมตร ด้วยความเร็ว 80 กม./ชม.

การขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นสิ่งที่อันตราย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์บ่อยกว่าผู้เสียชีวิตในรถโดยสาร 27 เท่าต่อกิโลเมตรที่เดินทาง เราไม่ได้จะห้ามไม่ให้ใครมาขี่มอเตอร์ไซค์ เราแค่ต้องการชี้ให้เห็นความเสี่ยงโดยธรรมชาติที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

รถจักรยานยนต์เป็นเครื่องจักรแห่งความตาย ?

การขนานนามมันแบบนั้นถือว่ามากเกินไป มันเป็นการตีตราอย่างมากต่อรถจักรยานยนต์และการขี่มัน แม้กระทั่งในยุคนี้ คนเฒ่าคนแก่หลายคนก็ยังเรียกมันว่า ‘เนื้อหุ้มเหล็ก’ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ผิด รถจักรยานยนต์เป็นอันตรายจริง ๆ แต่จักรยาน รถยนต์ รถบรรทุก เรือ และเครื่องบินก็มีอันตรายเช่นกัน

มันก็น่าแปลกเหมือนกันในเวลาที่มีอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซค์จนมีคนเสียชีวิต มันกลายเป็นความผิดของมอเตอร์ไซค์ และทันใดนั้น สิ่งเหล่านี้คือเครื่องจักรแห่งความตาย แต่ถ้าเป็นรถที่ประสบอุบัติเหตุ กลับกลายเป็นว่าคนขับเองหรือองค์ประกอบภายนอกอื่น ๆ มีข้อบกพร่องขึ้นมาซะอย่างนั้น ไม่ใช่ที่ตัวรถเอง ทั้งที่รถก็เกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา แต่เรามักไม่เคยได้ยินคนขนานนามมันว่า ‘โลงศพสี่ล้อ’

อุปกรณ์ความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์

หมวกกันน็อค แจ็กเก็ต กางเกง ถุงมือ และรองเท้าบูท อยู่ในจุดที่ผู้ขับขี่จะรู้สึกปลอดภัยสูงสุดขณะสวมใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของระดับไฮเอนด์และราคาแพง การสวมอุปกรณ์ที่เหมาะสมและคุณภาพดีช่วยลดจำนวนการบาดเจ็บที่อาจได้รับจากอุบัติเหตุได้อย่างมาก แต่การสวมหมวกนิรภัยเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้คุณอยู่ยงคงกระพัน

ใช่ อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับรถจักรยานยนต์มีมานานแล้ว การสวมใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยจะปกป้องคุณจากการถูกขูดขีด รอยฟกช้ำ และกระดูกหัก แต่อุปกรณ์ความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์จะปกป้องคุณได้ในระดับความเร็วหรือแรงกระแทกที่แน่นอนเท่านั้น หากคุณชนกำแพงเร็วพอและแรงมากพอ แม้แต่อุปกรณ์ความปลอดภัยสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุดและแพงที่สุดก็ไม่สามารถช่วยคุณได้

มันไม่อยู่ที่การขี่ มันอยู่ที่ผู้ขับขี่

พวกสิงห์นักบิดใช้ข้อโต้แย้งนี้มานานแล้วเมื่อมีปัญหาด้านความปลอดภัย พูดตามตรง เราสามารถพูดคำเดียวกันนี้กับยานพาหนะใด ๆ บนท้องถนนได้หมด ด้วยเหตุผลนี้ รถทุกคันบนท้องถนนมีโอกาสถึงตายได้ ถ้าผู้มีครรภ์บอกว่าพวกเขาจะระมัดระวังเป็นพิเศษในการขี่รถของพวกเขา แล้วใครละที่จะไปสงสัยในความสามารถของพวกเขา แน่นอนว่าคุณจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่คุณก็ไม่ใช่ยานพาหนะเพียงคันเดียวบนท้องถนน

รถจักรยานยนต์นั้นมองเห็นได้ยากเพราะขนาดของมัน หากเราคำนึงถึงการขับขี่ที่มีสิ่งรบกวน สิ่งกีดขวางจากการมองเห็น และมุมอับสายตา เราจะเริ่มเข้าใจอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการขี่มอเตอร์ไซค์ รถจักรยานยนต์นั้นปลอดภัยพอ ๆ กับถนนที่พวกมันวิ่งอยู่และคนขับที่พวกมันอยู่บนท้องถนนด้วย

รถจักรยานยนต์และการตั้งครรภ์

ในการตั้งครรภ์ มีสองชีวิตที่ต้องพิจารณาคือแม่และเด็ก แม้ว่าแพทย์บางคนจะไม่แนะนำให้ผู้มีครรภ์ขี่มอเตอร์ไซค์ แต่โดยทั่วไปแพทย์แนะนำว่าผู้มีครรภ์ควรพยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ แพทย์เสริมว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ไม่มีประโยชน์ต่อทารก

การแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตและการขี่มอเตอร์ไซค์ถือเป็นความเสี่ยง การขี่มอเตอร์ไซค์ทำให้ผู้ขี่มีภาระหนักมาก เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์ อัตราการเต้นของหัวใจของคุณจะเร็วขึ้น ระดับอะดรีนาลีนและคอร์ติซอลในกระแสเลือดของคุณเพิ่มขึ้น และกล้ามเนื้อของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาสมดุล และเช่นเดียวกับกีฬาทุกประเภท การขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมกับความเสี่ยงในการบาดเจ็บทางร่างกาย ความทุพพลภาพ หรือการเสียชีวิต

ผู้ขับขี่ที่ตั้งครรภ์

เรายังสามารถพบเห็นผู้มีครรภ์หลายรายที่มีอายุครรภ์ได้ 24 สัปดาห์และยังคงขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ บางคนกล่าวว่าแพทย์ของพวกเขาไม่เคยแนะนำให้พวกเขาเลิกขี่รถและพวกเขาควรจะทำในสิ่งที่พวกเขาทำต่อไป

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังระบุด้วยว่าแพทย์บอกเพียงว่าควรขี่ต่อไปตราบเท่าที่รู้สึกสบาย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาหยุดขี่ในช่วงไตรมาสที่ 2 เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือสบายอีกต่อไป

การบาดเจ็บและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การขี่มอเตอร์ไซค์สร้างภาระให้กับร่างกายอย่างมาก เมื่อขี่รถ มดลูกของผู้มีครรภ์อาจได้รับแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนที่อาจส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อนในระยะแรกของการตั้งครรภ์ หากขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ 3 และประสบอุบัติเหตุร้ายแรง อาจทำให้เส้นเอ็นที่ค้ำจุนมดลูกเสียหายได้ หรือแม้แต่สร้างความเสียหายให้กับทารกในครรภ์อย่างไม่อาจกลับคืนสภาพเดิมได้

การเพิ่มความเสี่ยงทางกายภาพที่อาจเกิดขึ้น ผู้ตั้งครรภ์อาจได้รับความเครียดเพิ่มเข้ามา ความขัดแย้งกับผู้ใช้ถนนรายอื่นอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดเกินควร เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบ ความเครียดและความวิตกกังวลที่ประสบอาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาสมองและอาจทำให้พัฒนาการทางปัญญาของเด็กด้อยลง

แม้ว่าผู้มีครรภ์บางคนอ้างว่าสามารถขี่มอเตอร์ไซค์ได้ดีในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของพวกเขาโดยไม่มีปัญหาใด ๆ แต่การกระโดดจากรถจักรยานยนต์ของคุณอย่างรวดเร็วหรือการโดนรถชนอาจทำให้ร่างกายและท้องของคุณบาดเจ็บได้ง่าย ซึ่งอาจทำร้ายทารกหรือรก หรือบางครั้งอาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด

ผู้มีครรภ์ควรขี่มอเตอร์ไซค์หรือไม่ ?

เราไม่ได้กำลังจะไปบอกพวกเขาว่าเขาทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง แต่ถ้านักขับขี่มืออาชีพเมื่อถูกถามว่าผู้มีครรภ์ควรขี่มอเตอร์ไซค์หรือไม่ พวกเขามักจะตอบว่าเขาไม่เห็นด้วย คลิปวิดีโอในโลกโซเชียลและข่าวภาคค่ำตอกย้ำความเชื่อเกี่ยวกับความอันตรายนี้อยู่ทุกค่ำคืน ดังนั้น ถ้าพวกเขาต้องตัดสินใจ พวกเขาต้องตอบว่าไม่ ผู้มีครรภ์ไม่ควรขี่มอเตอร์ไซค์

สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับผู้ที่รู้จักการรอคอย การรอสักสองสามเดือนก่อนที่คุณจะได้ขี่มอเตอร์ไซค์อีกครั้งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่ายังมีอีกชีวิตหนึ่งที่เรากำลังรอคอยการมาของเขา

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th