Site icon Motherhood.co.th Blog

คนท้องรับวัคซีนโควิด-19 ได้มั้ย ?

คนท้องรับวัคซีนโควิด-19 ได้มั้ย

แม้ว่าวัคซีนล็อตแรกจะเริ่มฉีดกันแล้ว แต่คนที่กำลังท้องหรือให้นมอาจจะยังไม่ได้รับ

คนท้องรับวัคซีนโควิด-19 ได้มั้ย ?

ท่ามกลางกระแสการอัพเดทของวัคซีนโควิด-19 ที่มีขึ้นทั่วโลก มีอีกคำถามหนึ่งที่ผู้คนยังคงสงสัยกันก็คือ “คนท้องรับวัคซีนโควิด-19 ได้มั้ย” หากว่าแม่ตั้งครรภ์มีความกังวลเรื่องการรับเชื้อ พวกเธอจะสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันโรคไว้ก่อนได้หรือไม่ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อทารกในครรภ์หรือเปล่า วันนี้ Motherhood นำเอารายละเอียดมาฝากกันค่ะ

ขณะนี้หลายประเทศได้เริ่มมีการทดลองฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนกันบ้างแล้ว และเป็นที่ชัดเจนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรับการฉีดวัคซีนเหล่านี้ได้ อย่างเช่นคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก แต่การที่กลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับวัคซีนนั้นยังขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอาศัยอยู่ที่ใดด้วย

วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคไม่ได้ทดลองในคนที่ตั้งครรภ์

การทดลองทางการแพทย์สำหรับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) ไม่ได้มีการทดลองในคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้หญิงที่ให้นมลูก ทางบริษัทเคยระบุว่าข้อมูลเท่าที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ ในการระบุความเสี่ยงของการรับวัคซีนที่มีต่อการตั้งครรภ์

ในสหราชอาณาจักร ข้อมูลที่ไม่เพียงพอนี้ได้ทำให้หน่วยงานที่กำกับดูแลไม่อนุญาตให้คนที่กำลังตั้งครรภ์และผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมลูกเข้าโครงการรับวัคซีน ส่วนในสหรัฐฯ ทางการได้ปล่อยให้พวกเขาเหล่านั้นตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

แม้ว่าแนวทางของทั้งสองประเทศนี้จะแตกต่างกัน สิ่งที่เราควรจับตาดูก็คือแต่ละแนวทางนี้จะส่งผลต่อหญิงมีครรภ์อย่างไร

ดร.รูธ ฟาเดน นักชีวจริยธรรมที่มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านสิทธิและสุขภาพของสตรีมีครรภ์ กล่าวว่า “ไม่มีข้อมูล ไม่มีระยะเวลา” เธอบอกว่า ยังคงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัคซีนมีความเสี่ยงต่อผู้มีครรภ์และผู้หญิงที่ให้นมลูกโดยเฉพาะ แต่ก็ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอที่จะยืนยันได้

ไฟเซอร์ระบุว่า ได้ทำตามคำแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (US Food and Drug Administration) ในการไม่ให้ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และที่กำลังให้นมลูกเข้าร่วมการทดลองวัคซีน คนเหล่านี้จะได้เข้าร่วมการทดลองก็ต่อเมื่อทางบริษัทได้ทำการศึกษาที่เรียกว่า ดาร์ต (Dart) ย่อมาจาก Developmental and reproductive toxicity ที่แปลว่าความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์และพัฒนาการของร่างกาย แล้วเสร็จ และมักจะมีการทำการศึกษานี้ในสัตว์

ดร.ฟาเดนกล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ไม่มีการระบาดใหญ่ ถ้าคุณพูดถึงวัคซีนชนิดใหม่ คนที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องผู้มีครรภ์และลูกในท้องของพวกเธอย่อมยืนยันว่า เราไม่ควรให้ผู้มีครรภ์เข้ามายุ่งเกี่ยวในการทดลองขั้นต้น” เธอกล่าวต่อว่า “คุณไม่สามารถนำพวกเธอเข้ามาร่วมตั้งแต่เริ่มต้นด้วยซ้ำ”

ในด้านชีวจริยธรรม ผู้มีครรภ์ถูกเรียกว่าประชากรเชิงซ้อน ซึ่ง ดร.ฟาเดนอธิบายว่า “เพราะเป็นประชากรกลุ่มเดียวที่มี 2 ชีวิตอยู่ในร่างเดียวกัน และในทางศีลธรรมแล้ว เราต้องดูแลทั้ง 2 ชีวิตนี้”

“และในความเป็นจริง ไม่มีใครจะห่วงใยทารกในครรภ์มากกว่าไปกว่าผู้เป็นแม่ที่กำลังอุ้มท้องอยู่ คำถามแรกที่เธอมักจะถามก็คือ ‘นี่จะปลอดภัยสำหรับลูกฉันไหม'” ดร.ฟาเดนกล่าว

ข้อมูลยังคงมีไม่เพียงพอที่จะตัดสินใจว่าควรทำการทดลองวัคซีนกับคนท้องดีหรือไม่

แต่การตัดสินใจไม่ให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เข้าร่วมการทดลองมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นในช่วงของการระบาดใหญ่เช่นนี้

“เราอยู่ในภาวะที่ตัดสินใจลำบาก” ดร.เอมิลี สตินเน็ตต์ มิลเลอร์ สูตินรีแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น (Northwestern University) สมาชิกในคณะทำงานโควิด-19 ของสมาคมเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (Society for Maternal and Fetal Medicine) กล่าว “ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญอย่างนี้อย่างรวดเร็ว และการตัดสินใจว่าจะให้ใครได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีนนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย”

การขาดข้อมูลคือข้อเสียที่สำคัญที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน “เราไม่มีข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจทำการทดลองทางการแพทย์ที่จำเป็น” ดร.มิลเลอร์กล่าว

สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ต่างก็เผชิญกับปัญหาขาดแคลนข้อมูลประกอบการตัดสินใจเหมือนกัน แต่กลับมีการรับมือที่แตกต่างกันในทางนโยบาย ดร.ฟาเดนบอกว่า เมื่อไม่มีข้อมูลที่ตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างเฉพาะเจาะจง เราก็ไม่สามารถตั้งคำถามต่อไปได้

สหราชอาณาจักรจึงเลือกใช้วิธีที่รอบคอบมากกว่า กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษระบุไว้บนเว็บไซต์ว่า แม้ขณะนี้จะยังไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนจะเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ แต่กระทรวงยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะเปิดไฟเขียวให้ผู้ที่ตั้งครรภ์รับวัคซีน

ดร.เอ็ดเวิร์ด มอร์ริส ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ (Royal College of Obstetricians and Gynaecologists–RCOG) ระบุในแถลงการณ์ว่า “ขณะที่ยังไม่เคยมีการทดลองทางการแพทย์เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ในผู้ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ ก็ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแนะนำให้มีการใช้วัคซีนโควิด-19 ในผู้มีครรภ์หรือผู้หญิงที่กำลังให้นมลูก”

ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ เลือกใช้อีกแนวทางหนึ่ง นั่นคือให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องและผู้หญิงที่ให้นมลูกตัดสินใจเอง “บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นตรงกันว่า ยังไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดอันตรายขึ้น” ดร.ฟาเดนกล่าว แต่เธอเตือนว่า “นั่นไม่ได้หมายความว่าไม่มี อันตราย”

หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรระบุว่า แม้จะมีการเร่งทดลองวัคซีนโควิด แต่ก็ไม่ได้ข้ามขั้นตอนใดเลย และวัคซีนจะได้รับการรับรองก็ต่อเมื่อใช้ได้ผลและมีความปลอดภัยเท่านั้น

ในทั้งสองประเทศ ผู้ที่กำลังมีครรภ์และผู้หญิงให้นมลูกจะต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะมีคำแนะนำที่ชัดเจนขึ้นว่าควรจะรับวัคซีนหรือไม่ ซึ่งคาดการณ์กันว่าผลการศึกษาความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์และพัฒนาการของร่างกายของไฟเซอร์เบื้องต้นจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ เมื่อการศึกษานี้เสร็จสมบูรณ์ ทางบริษัทอาจจะขยายการทดลองไปยังผู้ที่กำลังมีครรภ์ มีผู้หญิงบางส่วนที่ตั้งครรภ์ในระหว่างการเข้ารับการทดลอง ซึ่งจะมีการสังเกตการณ์พวกเธอตลอดช่วงการตั้งครรภ์

ผู้หญิงอีกมากมายที่กำลังรอความชัดเจนเรื่องนี้อยู่

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทยเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรให้เงินสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนและความเหมาะสมของวัคซีนต่อผู้หญิงตั้งครรภ์และผู้หญิงให้นมลูก โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากผู้ที่ตั้งครรภ์และผู้หญิงที่ให้นมลูกในสหรัฐฯ ที่เลือกรับวัคซีนในช่วงไม่กี่เดือนนี้ด้วย โดยจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ในกลุ่มคนกลุ่มแรกในสหรัฐฯ ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนนี้ โดยคาดว่ามีเจ้าหน้าที่ราว 330,000 คน ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูกอยู่ ทำให้ในระหว่างนี้ ผู้ที่ตั้งครรภ์และผู้หญิงให้นมลูกบางส่วนอาจจะเลี่ยงการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19

ดร.ฟาเดน กล่าวว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะประสบความสำเร็จได้ ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมลูกต้องได้รับวัคซีนด้วย “เราไม่สามารถมีวัคซีนที่จัดการกับโรคระบาดใหญ่นี้อย่างได้ผล หากเราไม่มีวัคซีนที่ให้กับคนที่กำลังตั้งครรภ์ได้” ดร.ฟาเดนกล่าว

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th