เรื่องของ “ชุดชั้นในเด็ก” บราตัวแรกของลูกก็สำคัญนะ
การเติบโตและเปลี่ยนแปลงของลูกเป็นสิ่งสำคัญเสมอ สำหรับคุณแม่ที่มีลูกสาว การที่ลูกจะต้องเริ่มใช้ “ชุดชั้นในเด็ก” ก็นับเป็นอีกก้าวสำคัญของลูกที่จะต้องได้รับความใส่ใจและแนะนำแนวทางจากคุณแม่ ซึ่งความต้องการของเด็กแต่ละคนก็ไม่ได้เหมือนกัน และช่วงวัยของเขาที่จะต้องใส่ชุดชั้นในตัวแรกก็มาถึงไม่พร้อมกันด้วย แล้วคุณแม่จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร มีสิ่งใดที่ต้องคำนึงถึงบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
เด็กหญิงเริ่มมีหน้าอกเมื่อไหร่?
เมื่ออายุ 10-15 ปี เด็กผู้หญิงกำลังเข้าสู่วัยสาว ร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่น หน้าอกขยาย สะโพกผายขึ้น บางคนเสียงเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงบริเวณหน้าอกก็คือจะมีอาการเสียวหรือคันที่หน้าอก และจะหายไปเองเมื่อหน้าอกโตเต็มที่แล้ว ซึ่งเด็กผู้หญิงส่วนใหญนั้นมักเริ่มใส่ชุดชั้นในเมื่ออายุประมาณ 11 ปี บางคนเริ่มใส่ตอน 8 ขวบ แต่เด็กบางคนเริ่มตอน 14 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนว่าโตเร็วมากน้อยแค่ไหน เริ่มมีหน้าอกให้เห็นบ้างแล้วหรือยัง
ทำไมถึงต้องใส่เฟิร์สบรา?
เฟิร์สบรานั้นไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อสรีระของลูกน้อยในระยะยาวแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างทั้งพัฒนาการของสาวน้อยควบคู่กันไปได้อีกด้วย เพราะขนาดและรูปทรงของบราที่สอดคล้องกับสรีระจะช่วยให้เด็กเคลื่อนไหว เรียนรู้ เสริมสร้างประสบการณ์และทักษะแต่ละช่วงวัยได้อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กมีความคล่องแคล่วในทุกอิริยาบถ ลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายลง
จะเริ่มต้นอย่างไร?
คุณแม่ต้องรู้ก่อนว่า ในขณะที่เด็กผู้หญิงหลายๆคนมักมีความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้โตเป็นสาวสักที แต่ก็มีบางคนที่ไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไร เรื่องนี้คุณแม่ต้องลองสังเกตดูเอง อาจจะเริ่มต้นจากลองเปรยๆชวนลูกสาวไปเดินห้างเป็นเพื่อนในวันหยุดก็ได้ แล้วแวะไปที่แผนกชุดชั้นในสตรี ลองให้ลูกเลือกชุดชั้นในที่เขาคิดว่าน่ารักมาสักตัวสองตัวเพื่อลองใส่ดูก่อน
ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการใส่บรา
ในบางครั้งคุณแม่เองก็อาจจะได้รับเอาความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับการใส่บรา รวมถึงการเลือกบราตัวแรกให้ลูกสาวมาได้เหมือนกัน ลองเช็คดูว่าคุณแม่ยังมีความเข้าใจผิดๆเหล่านี้อยู่หรือไม่
1. บราแบบไหนก็เหมือนกัน
การเลือกบราให้ลูกสาวใส่ครั้งแรกถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่หลายคนชอบมองข้ามไป เพราะมักคิดว่ามีไว้ใส่เพื่อปิดบังหน้าอกที่กำลังขยายตัว ใส่แบบไหนก็เหมือนๆกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ววบราของเด็กก็มีหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ ขึ้นอยู่กับรูปร่างสรีระ และวัยของเด็กมากกว่าว่าเขาควรจะใส่บราแบบไหน ชุดชั้นในสำหรับเด็กในปัจจุบันนี้ประกอบด้วยรูปทรงหลายสไตล์ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น บราตะขอหลัง บราสวมหัวตะขอหลัง บราสวมหัว เสื้อกล้ามครึ่งตัว เสื้อทับ และบราก็ยังมีทั้งแบบที่มีโครงและไม่มีโครงอีก ดังนั้น ในการเลือกซื้อบราที่เหมาะกับลูกน้อย นอกเหนือจากการพิจารณาช่วงวัยของลูกแล้ว คุณแม่ควรสำรวจสรีระของลูกด้วยเนื่องจากขนาดตัวของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน เมื่อเวลาเลือกซื้อบรา จะได้เลือกขนาดที่พอดีตัว ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป
2. ลูกยังอายุน้อย ไม่จำเป็นต้องใส่บรา กลัวลูกอึดอัด
พ่อแม่อาจจะทำไปด้วยความหวังดี กลัวว่าการใส่บราทั้งๆที่เด็กยังไม่มีหน้าอกจะทำให้เขาอึดอัดหรือรำคาญ จึงคิดว่าต้องรอให้ลูกสาวนั้นมีเนินอกก่อน แล้วถึงค่อยไปซื้อบรามาให้ใส่ การกระทำแบบนี้ยิ่งทำให้เด็กรู้สึกไม่คุ้นชินเมื่อต้องใส่บราอย่างจริงจังตามช่วงอายุที่เหมาะสม จนบางครั้งเกิดความดื้อรั้น ไม่ยอมใส่บราหรือเสื้อกล้ามไปโรงเรียน ก็จะยิ่งทำให้ลูกเกิดความไม่มั่นใจ และทำให้ลูกดูไม่ดีในสายตาคนอื่นด้วยเช่นกัน หากคุณแม่ไม่ฝึกเขาตั้งแต่เด็กๆ ลูกจะยิ่งไม่ชินและเป็นสาเหตุให้ไม่ยอมใส่เสื้อชั้นในได้ หากคุณแม่กลัวว่าลูกจะอึดอัดไม่สบายตัว คุณแม่ควรเลือกชุดชั้นในที่มีเนื้อผ้าที่นิ่ม ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนังของลูก ทำให้ไม่เกิดอาการคัน และโปร่งสบาย ไม่อึดอัด
3. เด็กๆโตไว ซื้อไซส์เผื่อโตไปเลย จะได้ไม่ต้องซื้อบ่อย
สมัยนี้เสื้อชั้นในทั้งแบบเด็กและผู้ใหญ่นั้นมีราคาสูงพอสมควร ทำให้เวลาตัดสินใจเลือกซื้อนั้นต้องดูดีๆ เลือกทั้งทีก็อยากใส่ได้นานๆ จะได้เป็นการประหยัดเงิน คุณแม่บางคนเลยซื้อเสื้อชั้นในให้ลูกแบบหลวมๆ เพราะคิดว่าอีกไม่นานลูกก็โตเป็นสาวแล้ว เดี๋ยวก็ใส่ได้พอดีเอง เด็กสมัยนี้ยิ่งโตไวกันอยู่ และอีกร้อยแปดเหตุผลที่คิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของตัวเอง
การใส่บราที่หลวมเกินไปเป็นที่เรื่องผิดมากๆ เพราะการเลือกเสื้อชั้นในนั้นต้องเลือกที่มีขนาดที่ใส่แล้วพอดีตัว ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป สำหรับเด็กผู้หญิงที่กำลังโตเป็นสาว การใส่เสื้อชั้นในแบบหลวมๆนอกจากจะทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจแล้ว ยังทำให้เวลาใส่เสื้อผ้าออกมาดูไม่กระชับและทรงไม่สวยอีกด้วย ทางที่ดีคุณแม่ไม่ควรซื้อเผื่อไซส์ลูก เลือกขนาดให้พอดีตัวจะดีกว่า
4. ก็แค่บราของเด็ก ซื้อจากที่ไหนก็ไม่ต่างกันมาก
อาจจะเพราะปัจจัยด้านราคาที่ทำให้คุณแม่บางคนไม่อยากเสียเงินซื้อชุดชั้นในที่แพงจนเกินไปนัก เลือกซื้อชุดชั้นที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งเราจะพบว่ามันมีความแตกต่างของเนื้อผ้าอย่างชัดเจน ตามปกติแล้วผ้าที่นิยมใช้ทำชุดชั้นในมีหลากหลายแบบ เช่น CoolMax หรือ Lycra คุณแม่ต้องดูแบบที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวลูก เรื่องคัทติ้งของชุดก็สำคัญไม่ต่างกัน ควรดูว่างานเย็บเก็บขอบทำได้ประณีตหรือไม่ เพื่อไม่ให้เนื้อผ้าหลุดออกมาขณะสวมใส่อยู่ หากเป็นบราแบบมีโครง ก็ต้องดูว่าวัสดุที่ใช้ทำโครงนั้นเเข็งแรงหรือเปล่า ที่สำคัญคือต้องไม่ทิ่มออกมาด้านข้างด้วย ทั้งหมดนี้ก็เป็นไปเพื่อความคงทนของเสื้อชั้นใน ที่จะทำให้ลูกใส่ได้นาน นั่นเอง คุณแม่จึงควรเลือกเสื้อชั้นในให้ลูกอย่างรอบคอบ
ควรเลือกชุดชั้นในรูปแบบไหนให้ลูก?
1. ใช้สายวัดด้านเซนติเมตร วัด 2 ตำแหน่ง คือ รอบอกและรอบใต้อก แล้วจดไว้
2. นำตัวเลขมาลบกัน โดยคำนวณจาก “รอบอก” ลบด้วย “รอบใต้อก” ผลต่างที่ได้จะเป็นตัวบอกว่าควรใส่เสื้อชั้นในรูปแบบไหน
- ผลต่างที่ได้ต่ำกว่า 6.5 เซนติเมตร รูปแบบที่ควรเลือกใส่คือ เสื้อกล้ามแบบครึ่งตัวหรือแบบเต็มตัว เพื่อรองรับหน้าอกที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
- ผลต่างที่ได้อยู่ระหว่าง 6.5-8.5 เซนติเมตร รูปแบบที่ควรเลือกใส่คือ เสื้อกล้ามบังทรงแบบยางยืดใต้อก หรือที่เรียกกันว่า บรา ฮาล์ฟ สลิป (Bra Half Slip) เป็นบราที่มีฟองน้ำบังทรงเพื่อรองรับการขยายตัวของเต้าทรง
- ผลต่างที่ได้อยู่ระหว่าง 9-11 เซนติเมตร รูปแบบที่ควรเลือกใส่คือ บราสวมหัวธรรมดาและแบบมีตะขอหลัง เพื่อรองรับเต้าทรงที่มีการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
- หากผลต่างที่ได้อยู่ระหว่าง 9-11 เซนติเมตร รวมทั้งสังเกตได้ว่าหน้าอกมีการขยายตัวทั้งเต้าทรงและฐานทรงอย่างชัดเจน รูปแบบที่ควรเลือกใส่คือ บราตะขอหลัง ซึ่งเป็นบราที่มีลักษณะเหมือนชุดชั้นในมากขึ้น สามารถปรับระดับสายบ่าและตะขอหลังได้ และยังมีฟองน้ำแบบยืดหยุ่นได้ดี เพื่อให้สามารถรองรับเต้าทรงที่มีการขยายตัวอยู่ตลอดเวลาได้อย่างเต็มที่
5 ขั้นตอนสวมใส่บราให้ถูกต้อง
- ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นสวมบราเข้าทางด้านหน้า และปรับบริเวณส่วนใต้อกของบราให้อยู่พอดีกับรอบใต้อก
- จากนั้นให้ก้มลงเล็กน้อย เพื่อจัดหน้าอกให้วางพอดีอยู่ในเต้าทรง และติดตะขอด้านหลังให้พอดีกับขนาดตัว
- ควรปรับสายบราให้พอดีกับช่วงไหล่และอยู่ในระดับที่เท่ากันทั้งสองข้าง
- ให้ก้มลงอีกครั้ง ใช้มือยกทรวงอกขึ้นเล็กน้อย ก่อนวางลงให้พอดีกับเต้าทรง โดยปรับบริเวณส่วนใต้อกของบราให้สอดรับพอดีกับฐานเต้า
- ลองขยับร่างกาย ยกแขนไปมา และตรวจเช็คว่าบราที่สวมใส่อยู่พอดีกับรูปร่างและสรีระมากเพียงพอหรือไม่
คุณแม่ควรให้เวลากับการเลือกซื้อชุดชั้นในของลูกสาวตัวน้อยนะคะ เพราะความใส่ใจอย่างใกล้ชิดจากคุณพ่อคุณแม่จัช่วยส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้และทำความรู้จักกับสิ่งต่างๆ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของตนเองด้วยค่ะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th