Site icon Motherhood.co.th Blog

ช่วง Lock down แบบนี้ ชาวคอนโดดูแลสุขภาพจิตยังไงดี

ช่วง lock down ของชาวคอนโด

การที่ต้องกักตัวอยู่บ้านสำหรับชาวคอนโดหรือชาวหอคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ช่วง Lock down แบบนี้ ชาวคอนโดดูแลสุขภาพจิตยังไงดี

เมื่อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดไปทั่วโลก รัฐบาลเกือบทุก ๆ ที่ก็สั่งให้ประชาชนต้องหยุดงานอยู่บ้าน จำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ “ช่วง Lock down” เช่นนี้สามารถสร้างความเครียดให้กับคนที่ไม่เคยชิน เพราะเมื่อเราต้องอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งนานหลายวัน ความรู้สึกเครียดและเบื่อหน่ายก็อาจเกิดขึ้นมาได้เหมือนกัน โดยเฉพาะจำเป็นต้องเก็บตัวในคอนโดหรืออพาร์ตเมนท์ก็ยิ่งต้องระมัดระวังสุขภาพจิตของตัวเองมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่พักอาศัยที่ไม่ได้มีบริเวณมากนัก รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางอย่างฟิตเนส สระว่ายน้ำ ก็มักจะปิดให้บริการ เรียกได้ว่าวัน ๆ ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมอย่างแท้จริง วันนี้เราจึงจะนำเสนอวิธีที่ช่วยให้ชาวคอนโดชาวหอได้ดูแลสุขภาพใจกันในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่แต่กับบ้านเช่นนี้

วิธีดูแลสุขภาพใจของชาวคอนโดและอพาร์ตเมนท์ในช่วง Lockdown

1. จัดเตรียมอุปกรณ์ดูแลและป้องกันสุขภาพให้พร้อม

ตามปกติแต่ละคอนโดจะมีมาตรการป้องกันออกมาให้ผู้อาศัยได้ปฎิบัติตามอยู่แล้ว เช่น ติดเจลแอลกอฮอล์ไว้หน้าประตูหรือในลิฟท์ หรือมีไม้จิ้มฟันไว้บริการในลิฟท์เพื่อให้ใช้นำมากดปุ่มแทนที่จะกดด้วยมือตัวเอง แต่เราก็อาจลดความกังวลในส่วนนี้ด้วยการสวมถุงมือ ใส่หน้ากากอนามัย และพกแอลกอฮอล์เจลล้างมือขวดเล็ก ๆ ติดตัวเวลาไปไหนมาไหนด้วย

ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าลืมที่จะออกกำลังกาย

2. เคลื่อนไหวร่างกาย

ควรมีการออกกำลังกาย เช่น ฝึกโยคะในห้อง เปิดคลิปวิดีโอแอโรบิคแล้วเต้นตาม เป็นการออกกำลังกายที่ง่าย ไม่กินพื้นที่มาก และไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ออกกำลังกายมากเหมือนการจัดทำโฮมยิม การได้ขยับร่างกายจะทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข ช่วยให้คุณลดความเครียดลงไปได้มากทีเดียว

3. เขียน To do list

ตื่นเช้ามาก็ควรที่จะเขียนรายการของสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเอาไว้ เพื่อเป็นการตั้งเป้าหมายให้กับตนเอง ป้องกันการใช้ชีวิตประจำแบบไร้ทิศทางและการทำงานที่ไม่ได้ประสิทธิผลที่น่าพอใจ โดยอาจจะทำเป็นบอร์ดง่าย ๆ ติดในพื้นที่ที่เห็นได้ตลอดวัน และเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำลงในกระดาษโพสต์อิท เวลาที่ทำแต่ละรายการสำเร็จก็ย้ายไปติดในฝั่งสำหรับรายการที่ทำเสร็จแล้ว

จดรายการสิ่งที่ต้องทำลงบนบอร์ดแบบเคลื่อนย้ายได้ ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

4. ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ดูบ้าง

ในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำงานหรือการดูแลบ้าน หากรู้สึกเบื่อ ให้ลองทำในสิ่งที่อาจจะเคยอยากทำมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง เช่น ลงเรียนคอร์สออนไลน์ในเรื่องที่สนใจ เขียนบทความแนะนำในเรื่องที่ตนเองเชี่ยวชาญ อ่านหนังสือจากลิสท์หนังสือดีปี 2019 ลองทำอาหารแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทำงาน DIY หรือสร้างงานศิลปะ

5. ถือโอกาสจัดห้องเสียใหม่

อีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้และยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตก็คือการจัดห้อง ลงมือทำความสะอาดหรือปรับเปลี่ยนผังห้องใหม่ การทำเช่นนี้เป็นการสร้างความรู้สึกว่าได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อม ช่วยกำจัดความเบื่อหน่ายหรือความเครียดที่ก่อตัวขึ้นจากการอยู่ในที่เดิมนาน ๆ เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้โละสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปจากห้องด้วย เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติแล้ว คุณอาจจะได้ห้องใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม

ได้เวลาจัดห้องใหม่ให้สวยงามอย่างที่ฝัน

6. ลดการใช้เวลาออนไลน์

การ Work from home ในช่วง Lock down เช่นนี้อาจจะทำให้เราต้องพึ่งพากับโลกออนไลน์มากขึ้น แม้ในยามปกติที่เราจะรู้สึกว่าเราติดมันมากแค่ไหน ถึงตอนนี้เรากลับจะรู้สึกอยากหลีกหนีจากมันมากกว่าเก่า อีกทั้งการได้เห็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวของสถานการณ์อยู่ตลอดก็มีส่วนทำให้เกิดความวิตกกังวลได้ไม่น้อยเลย ลองถอยห่างออกจากโลกออนไลน์ในเวลาที่คุณไม่ต้องทำงาน แล้วหันมาทำกิจกรรมแบบออฟไลน์มากขึ้น จะเล่นบอร์ดเกมกับลูก ๆ หรือปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ที่นิยมเลี้ยงในคอนโดเพื่อเพิ่มความสดชื่นก็ได้

6. อย่าหยุดการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ

ถึงแม้จะแนะนำให้ลดการใช้เวลาในโลกออนไลน์ลงบ้าง แต่การดำรงการติดต่อกับเพื่อน ๆ และคนที่เรารักและห่วงใยก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นมากในช่วงเวลาเช่นนี้ หาเวลาพูดคุยและถามไถ่เรื่องสุขภาพกับสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ไกลกันและกับเพื่อน ๆ บ้าง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะรู้สึกโดดเดี่ยวเกินไป และจะนำความเครียดมาสู่คุณได้อีก

ลองหาต้นไม้ที่เหมาะสมกับชีวิตคอนโดมาปลูกดูสิ

หลักการในการป้องกันความเครียดและความเบื่อหน่ายจากการใช้ชีวิตในพื้นที่อันจำกัด คือสร้างความรู้สึกใหม่ ๆ และสภาพแวดล้อมที่ไม่จำเจ หากคุณลองใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น คุณอาจจะค้นพบกิจกรรมบางอย่างที่คุณสามารถสนุกไปกับมัน หรืออาจค้นพบทักษะใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวคุณ และมันอาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปเลยก็ได้ หากคุณสามารถดูแลสุขภาพจิตใจของคุณภายใต้สถานการณ์นี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ คุณก็เหมือนมีภูมิคุ้มกันในจิตใจมากขึ้นอีกระดับนึงด้วยค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th