“ตับอักเสบเฉียบพลัน” กำลังระบาดในเด็กต่ำกว่า 10 ขวบ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ประกาศให้มีการเฝ้าระวังโรคตับอักเสบเฉียนพลันระบาดรุนแรงในเด็กกลุ่มอายุน้อยกว่า 10 ปี เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประกาศแจ้งเตือนมาจากองค์การอนามัยโลก จากกรณีที่มีการตรวจพบผู้ป่วยเด็กมีอาการป่วยของโรคตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุในหลายประเทศ
สถานการณ์จากทั่วโลก
มีรายงานพบการระบาดครั้งแรกของโรคตับอักเสบเฉียบพลันในเด็กในสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคดังกล่าวอย่างน้อย 111 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี และจากนั้นหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล แคนาดา และประเทศอื่น ๆ เริ่มทยอยออกมารายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคดังกล่าว
การศึกษาโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ก็ได้รายงานว่าเด็ก 9 คนจากรัฐอลาบามาได้รับผลกระทบจากโรคตับอักเสบเฉียบพลันเช่นกัน ส่วนอีกรัฐหนึ่งคือวิสคอนซินกำลังสืบสวนการเสียชีวิต
ทางกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียได้ออกมายืนยันว่า มีผู้ป่วยเด็กที่เสียชีวิตจากโรคตับอักเสบปริศนาแล้ว 3 รายในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิงคโปร์ได้ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยเด็กอายุ 10 เดือนมีอาการป่วยด้วยโรคตับอักเสบปริศนาด้วยเช่นกัน
ต่อมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แถลงว่าเด็กที่มีอายุระหว่าง 1-6 ขวบและเคยมีสุขภาพดีมาก่อนทั้งหมด อยู่ในกลุ่มผู้ป่วยประมาณ 170 รายใน 11 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีผู้ป่วยเด็กเสียชีวิตจากอาการดังกล่าว 1 ราย และอย่างน้อย 17 รายต้องได้รับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายตับ
ทางด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า มีประกาศแจ้งเตือนจากองค์การอนามัยโลก พบว่ามีผู้ป่วยเด็กเป็นตับอักเสบเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้นโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี โดยมีอาการท้องเสีย อาเจียน แต่มักไม่มีไข้ ต่อมาพบว่ามีตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงตามมา และพบว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยเกิดภาวะตับวายตามมา
โดยสาเหตุไม่ได้เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ-อี และหนึ่งในสามของผู้ป่วยตรวจพบการติดเชื้อ Adenovirus (อะดีโนไวรัส) และในผู้ป่วยบางรายมีการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ร่วมด้วย
สาเหตุของโรคตับอักเสบเฉียนพลันในเด็ก
สาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ-อี ไข้เลือดออก ยาหรือสารพิษ ภูมิคุ้มกันทำลายตับ หรือโรคพันธุกรรมทางตับ เป็นต้น
Adenovirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งติดต่อได้โดยการสัมผัสใกล้ชิด ละอองฝอยของสิ่งคัดหลั่งทางระบบทางเดินหายใจ การสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยมีเกือบ 50 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเด็กมักไปพบแพทย์ด้วยอาการทางระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก โดยทั่วไป Adenovirus ไม่ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติ
มีข้อสันนิษฐานว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Adenovirus ในเด็กน้อยลง เนื่องจากการติดเชื้อลดลง หรืออาจมีการกลายพันธุ์ของเชื้อ Adenovirus หรืออาจมีความเกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด ทำให้ผู้ป่วยเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติเมื่อติดเชื้อ Adenovirus แล้วจึงเกิดตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงตามมาได้
อาการของโรคตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก
ผู้ป่วยมักมีอาการ ดังนี้
- มีไข้
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดท้อง
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ปัสสาวะสีเข้ม
- อุจจาระสีซีด
วิธีรักษาเบื้องต้น
วิธีการรักษาจะขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบเฉียบพลัน ตับอักเสบเฉียบพลันซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ Adenovirus นั้น การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาเฉพาะ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะตับวาย ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงของระดับการรับรู้ ซึมลง เลือดออกผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจากการติดเชื้อ Adenovirus ในประเทศไทย
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th