Site icon Motherhood.co.th Blog

สุนัขดมได้ว่าเราท้อง จริงเหรอ ?

สุนัขดมได้ว่าเราท้องจริงเหรอ

สุนัขสามารถรับรู้ได้ว่าเรากำลังตั้งครรภ์จริงเหรอ ?

สุนัขดมได้ว่าเราท้อง จริงเหรอ ?

หากได้ลองพูดคุยกับคนรักสุนัขที่ตั้งท้อง คุณอาจได้ยินเรื่องราวว่าที่น่าทึ่ง เช่น “สุนัขดมได้ว่าเราท้อง” หรือสุนัขของพวกเขามีการปกป้องมากขึ้น รักหรือแสดงให้เห็นว่าพวกมันรู้ว่ามนุษย์ตั้งท้อง บางทีสิ่งต่อไปนี้อาจอธิบายความสงสัยของคุณได้ค่ะ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่ช่างสังเกตโลกรอบตัวมาก บางทีอาจจะเป็น ‘คนช่างสังเกต’ มากกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจเสียอีก ดังนั้น หากคุณมีสุนัขที่ช่างสังเกตอย่างจริงจัง คุณอาจสงสัยว่าพวกมันจะสามารถรับรู้ได้หรือไม่เมื่อคุณตั้งท้อง

ในทางการแพทย์ สุนัขสามารถตรวจจับสิ่งที่ผิดแปลกออกไปได้อย่างแน่นอน ในความเป็นจริง การวิจัยสนับสนุนความสามารถของสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อการ:

ร่างกายของคุณต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายในระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้น หากคุณเชื่อในความสามารถของสุนัขในการรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ พฤติกรรมแปลก ๆ ของพวกมันที่เกี่ยวข้องกับสถานะการตั้งครรภ์ของคุณอาจไม่เคยอยู่ในความคิดของคุณมาก่อนเลยก็ได้

การดมกลิ่นของสุนัขนั้นถูกนำมาช่วยทางการแพทย์มานานแล้ว

สุนัขสามารถดมกลิ่นฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ?

การเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเป็นเรื่องปกติที่ดีต่อสุขภาพของการตั้งครรภ์ และยังจำเป็นอีกด้วย ดูฮอร์โมนโกนาโดโทรปินของมนุษย์ (hCG) เป็นตัวอย่าง มันผลิตในช่วงตั้งครรภ์เท่านั้น และมีวัตถุประสงค์เพื่อบำรุงไข่ที่เพิ่งปฏิสนธิ ฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ได้แก่

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเกิดขึ้นในช่วง 9 เดือน ในช่วงเวลานี้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความเป็นไปได้ในทางทฤษฎีที่จะทำให้กลิ่นตัวตามธรรมชาติของคุณเปลี่ยนไป ซึ่งสุนัขของคุณอาจรับรู้ได้

มีรายงานว่าสุนัขสามารถรับกลิ่นได้ดีกว่ามนุษย์ 1,000-10,000 เท่า และยังมีรายงานว่าดีกว่าถึง 100,000 เท่าด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสุนัขมีตัวรับกลิ่นในโพรงจมูกมากกว่า 220 ล้านตัว เทียบกับมนุษย์ที่มีประมาณ 5 ล้านตัว

โดยไม่คำนึงถึงตัวเลขที่เฉพาะเจาะจง (จำนวนมาก) เราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักวิทยาศาสตร์ที่จะทำการแยกแยะข้อมูลต่อไป เนื่องจากชาวเน็ตยังไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีคำถามใดที่จะค้านว่าสุนัขจะมีประสาทสัมผัสทางกลิ่นที่เหนือกว่าอย่างมาก

ดังนั้น ในขณะที่สุนัขของคุณอาจยังไม่ทราบว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอาจกระตุ้นให้ลูกสุนัขแสดงความสนใจคุณมากกว่าปกติหรือแตกต่างไปจากปกติ

อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจน มันก็ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนเรื่องนี้ แต่ด้วยประสาทสัมผัสที่ดีในการดมกลิ่นของสุนัขก็อาจเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้

ความอุ้ยอ้ายที่เพิ่มขึ้นนั้น สุนัขก็รับรู้ได้เช่นกัน

แล้วการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่เกิดจากฮอร์โมนละ ?

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นตัวแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ที่สุนัขบางตัวอาจรับได้ สุนัขยังมีความสังเกตสภาพร่างกายและอารมณ์ของเจ้าของ ดังนั้น มันขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณเลี้ยงสุนัข พวกมันอาจสามารถอ่านอารมณ์ของคุณได้

ย้อนนึกถึงวันที่เลวร้ายครั้งสุดท้ายของคุณ สุนัขของคุณเริ่มใช้เวลากอดมากขึ้นเพื่อให้กำลังใจคุณหรือไม่ ? หากเป็นเช่นนั้นสุนัขของคุณอาจตอบสนองในทำนองเดียวกันเมื่อคุณตั้งครรภ์

เมื่อร่างกายสร้างฮอร์โมนเอชซีจี อาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน จึงเป็นเรื่องปกติมากขึ้น แน่นอนว่าสุนัขของคุณอาจไม่ชินกับการอาเจียนของคุณ อาการแพ้ท้องอาจรบกวนกิจวัตรปกติของคุณได้เช่นกัน คุณอาจออกไปเดินเล่นตอนเช้าช้ากว่าเดิมเล็กน้อย หรืออาจจะนอนบ่อยขึ้น หากสุนัขของคุณรับรู้ได้ว่าคุณรู้สึกไม่สบาย พวกมันอาจเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ คุณ

ความเหนื่อยล้าและอารมณ์แปรปรวนสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้คุณพาสุนัขไปเดินน้อยลงหรือเดินได้ช้าลง ละหากคุณมีอาการหงุดหงิดมากขึ้น สุนัขของคุณอาจถูกคุณตำหนิมากขึ้น

ในระยะหลังของการตั้งครรภ์การเดินของคุณอาจอุ้ยอ้ายขึ้นเล็กน้อย และถ้าคุณมีสุนัขที่ชอบมานั่งตัก การนั่งก็จะไม่เหมือนเดิม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่อาจทำให้สุนัขของคุณสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับคุณ

ว่ากันว่าประสาทการฟังของสุนัขไกลกว่ามนุษย์ถึง 4 เท่า

สุนัขสามารถได้ยินเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ได้หรือไม่ ?

แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานสนับสนุน แต่ก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน การได้ยินการเต้นของหัวใจของทารกจะง่ายขึ้นเมื่อการตั้งครรภ์ของคุณค่อย ๆ ดำเนินไป เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณสามารถได้ยินการเต้นของหัวใจของทารกได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยฟังการเต้นของหัวใจ คุณอาจใช้เครื่องตรวจฟังเสียง หูฟังชนิดพิเศษ หรือแม้กระทั่งให้คู่ของคุณฟังโดยเอาหูแนบท้อง

เมื่อพิจารณาว่าสุนัขมีประสาทสัมผัสทางการได้ยินที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับมนุษย์ จึงเป็นเหตุผลว่าพวกมันอาจได้ยินการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ และรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ทฤษฎีหนึ่งคือสุนัขสามารถได้ยินได้ไกลกว่ามนุษย์ถึง 4 เท่า แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

การตอบสนองของสุนัขต่อการตั้งครรภ์ของคุณ

หากสุนัขของคุณรู้สึกได้ถึงการตั้งครรภ์ คุณอาจสังเกตเห็นพฤติกรรมของพวกมันเปลี่ยนไป สุนัขนั้นแตกต่างกัน ดังนั้น ปฏิกิริยาของพวกมันก็อาจจะแตกต่างกันตามไปด้วย สุนัขบางตัวจะปกป้องเจ้าของมากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ และจะอยู่เคียงข้างคุณ เมื่อท้องของคุณยิ่งโตขึ้น ความอยากปกป้องของสุนัขก็อาจเพิ่มขึ้น

แต่ในขณะที่สุนัขบางตัวปรับตัวได้ดีกับการเปลี่ยนแปลง แต่ตัวอื่น ๆ ก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังนั้น อย่าแปลกใจถ้าสุนัขของคุณดื้อรั้นมากขึ้น หรือเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ใช่นิสัย เช่น ฉี่ในบ้าน หรือเคี้ยวสิ่งของต่างๆ อาจเป็นเพราะพวกมันไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เรากล่าวถึง เช่น การเดินช้าลงหรือน้อยลง ความสนใจน้อยลงเนื่องจากคุณกำลังจะมีเด็ก พูดง่าย ๆ ก็คือพวกมันอิจฉา

ให้เวลาเจ้าตูบอีกหน่อย พวกมันจะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้เอง ในระหว่างนี้ ให้ความรักและความมั่นใจแก่พวกมันเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อคุณมีโอกาส และวางแผนสำหรับภาพถ่ายทารกและสุนัขน่ารัก ๆ ของคุณ

เมื่อคุณใกล้คลอด เจ้าสี่ขาอาจยิ่งปกป้องคุณมากขึ้น

สุนัขของคุณรู้สึกว่าการคลอดกำลังใกล้เข้ามาหรือไม่ ?

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าสุนัขของคุณจะรู้สึกได้ถึงสัญญาณของการเจ็บครรภ์ แต่เมื่อคุณเข้าใกล้การคลอดมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายของคุณจะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งสุนัขของคุณอาจสังเกตเห็นได้ และด้วยเหตุนี้พวกมันอาจปกป้องคุณเป็นพิเศษและยึดติดกับคุณ ตามคุณไปรอบ ๆ บ้านเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสบายดี ผู้หญิงหลายคนรายงานตรงกัน

ตัวอย่างเช่นหากคุณมีอาการเจ็บครรภ์หลอก สุนัขของคุณอาจรู้สึกถึงความไม่สบายตัวและแสดงความกังวล การเดินของคุณอาจเปลี่ยนไป เมื่อทารกขยับตัวเพื่อเตรียมคลอด

นอกจากนี้ กลิ่นตามธรรมชาติของคุณอาจเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนการเจ็บครรภ์ ทำให้เกิดปฏิกิริยาจากสัตว์เลี้ยงของคุณ ดังนั้น หากคุณใกล้ถึงวันครบกำหนดและสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในสุนัขของคุณ การคลอดน่าจะใกล้เข้ามาแล้ว

สุนัขเป็นสัตว์ช่างสังเกตและมีประสาทสัมผัสในการได้ยินและดมกลิ่นที่รุนแรง ดังนั้น จึงมีโอกาสดีที่เพื่อนสี่ขาจะรับรู้ถึงการตั้งครรภ์ของคุณ หรืออย่างน้อยก็รู้ว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไป

ทารกและสุนัข (หรือแมว) เป็นส่วนผสมที่น่ารัก ไม่ว่าพฤติกรรมของสุนัขของคุณจะเปลี่ยนไปในระหว่างตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม แน่นอนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังจากที่ทารกมาถึง อย่าแปลกใจถ้าลูกและสุนัขของคุณจะกลายเป็นเพื่อนซี้กันก่อนที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th