เบิกค่าคลอด สิทธิ์ดี ๆ ที่คุณแม่ไม่ควรพลาด
ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ไหนจะเจ้า โควิด-19 ตัวร้าย หลาย ๆ ครอบครัวน่าจะประหยัดและลำบากเรื่องการเงินไม่น้อย แต่รู้รึเปล่า สิทธิ์ของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นท้องแรกหรือท้องคนที่สองนั้น ประกันสังคมช่วยได้นะ! ว่าแต่จะเริ่มต้นยังไง? แล้วเบิกค่าอะไรได้บ้าง? ไปดูกันดีกว่า
ประกันสังคมเบิกค่าตรวจครรภ์และฝากครรภ์ได้
สำหรับประกันสังคมไม่ได้ครอบคลุมแค่ค่าทำคลอดเท่านั้น แต่เพิ่มการเบิกเคลมค่าฝากครรภ์ครั้งแรก ค่าอัลตร้าซาวด์ ค่าวัคซีน หรือค่ายาต่าง ๆ รวมทั้งหมด เป็นจำนวน 1,000 บาท โดยการจ่ายเงินในแต่ละครั้งจะแบ่งตามเกณฑ์ดังนี้
ครั้งที่ 1 อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ (3 เดือน) จ่ายให้ในอัตราไม่เกิน 500 บาท
ครั้งที่ 2 อายุครรภ์ระหว่าง 12-20 สัปดาห์ (3-5 เดือน) จ่ายให้ในอัตราไม่เกิน 300 บาท
ครั้งที่ 3 อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายให้ในอัตราไม่เกิน 200 บาท
นอกจากนี้ ยังสามารถขอเบิกค่าฝากครรภ์จากประกันสังคมได้โดยไม่ต้องรอให้คลอดบุตรก่อน หรือจะยื่นขอรับสิทธิประโยชน์หลังจากคลอดบุตรทีเดียวเลยก็ได้นะ
ประกันสังคมเบิกค่าคลอดบุตรได้
สำหรับการขอเบิกค่าคลอดบุตรประกันสังคม 2563 นั้น จะเบิกแบบเหมาจ่ายในอัตรา 13,000 บาท/ครั้ง เช่น ค่าทำคลอด ค่ายา ค่าห้องพักฟื้น ค่ารถพยาบาล หรือค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคลอดบุตร
บรรดาคุณแม่สามารถเข้าโรงพยาบาลไหนก็ได้ที่เลือกลงทะเบียนประกันสังคมเอาไว้ หากต้องการเข้าโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดอาจจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วค่อยนำเอกสารมายื่นเบิกที่สำนักประกันสังคมภายหลัง โดยจะมีเงื่อนไขในการรับสิทธิ ดังนี้
- จ่ายค่าประกันสังคมแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 เดือน หรือภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนคลอดบุตร
- กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง
- หากบุตรที่นำมาใช้สิทธิ์เบิกค่าคลอดแล้ว ะไม่สามารถนำมาขอเบิกค่าคลอดได้อีก
- ส่วนกรณีคลอดบุตรแฝด คุณก็สามารถเบิกค่าคลอดบุตรประกันสังคมได้ตามปกติ ทางประกันสังคมจะนับเป็นรายครั้ง
ประกันสังคมเบิกค่าชดเชยลาคลอดได้
นอกจากค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิเบิกเคลมค่าจ้างชดเชยกรณีหยุดงานเพื่อลาคลอดหรือพักรักษาตัวได้อีกด้วย โดยทางประกันสังคมจะจ่ายให้ในอัตรา 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นระยะเวลา 90 วัน
เช่น คุณแม่กำลังตั้งท้อง (เป็นผู้ประกันตน) มีเงินเดือน 20,000 บาท จะต้องได้รับเงินชดเชยการหยุดงาน 50% ของเงินเดือน เป็นจำนวน 10,000 บาท/เดือน ซึ่งมีข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
- จะต้องจ่ายค่าประกันสังคมแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนคลอดบุตร
- สิทธิการลาคลอดใช้ได้เฉพาะฝ่ายหญิงเท่านั้น ฝ่ายชายไม่สามารถเบิกใช้ได้
- จ่ายให้ไม่เกินฐานเงินเดือน 15,000 บาท หากเงินเดือนมากกว่ากำหนดจะคิดแค่ 15,000 บาท เช่น มีเงินเดือน 40,000 บาท ก็จริง แต่จะเบิกค่าชดเชยหยุดงานได้ที่ 15,000 บาท เท่านั้น
- สำหรับการใช้สิทธิประกันสังคมนี้จะใช้ได้เฉพาะบุตรคนที่ 1 และคนที่ 2 เท่านั้น
- ค่าชดเชยนี้จะจ่ายเงินให้ทั้งหมด 90 วัน หรือ 3 เดือน นับรวมวันหยุดราชการ
นอกจากนี้ หากคุณแม่กลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยไม่ต้องรอให้ครบ 90 วัน ก็ยังได้รับเงินค่าชดเชยหยุดงานด้วย นั่นก็หมายความว่าจะได้รับทั้งค่าจ้างตามปกติ (ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละบริษัท) และรับเงินชดเชยกรณีลาคลอดบุตรไปพร้อม ๆ กันเลย
คลอดแล้วก็ยังขอเบิกจากประกันสังคมได้นะ
สำหรับสิทธิประกันสังคม 2563 คุณแม่สามารถรับเงินเหมาจ่ายเดือนละ 600 บาทต่อบุตร 1 คน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี แต่ทางประกันสังคมก็กำหนดเงื่อนไขเอาไว้เช่นกัน อาทิ
- ต้องจ่ายเงินประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ทดแทน
- เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้นบุตรบุญธรรมหรือบุตรที่ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
- อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนไม่เกิน 3 คน ยกเว้นกรณีบุตรเสียชีวิต
- กรณีคุณได้บุตรแฝด 2 คน ก็จะได้รับเงินประกันสังคมจำนวน 1,200 บาท/เดือน ซึ่งประกันสังคมจะจ่ายเงินสูงสุดไม่เกิน 3 คน
- สามารถยื่นย้อนหลังได้ไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ส่งเงินประกันสังคมตามกำหนด
อยากเบิกเคลมเงินสำหรับคนท้องเริ่มต้นยังไงดี?
คุณแม่มือใหม่ทุกคนที่เป็นผู้ประกันตนสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินตามกรณีต่าง ๆ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ตามสาขาที่สะดวกหรือใกล้บ้าน (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ กระทรวงสาธารณสุข)
โดยสามารถติดต่อได้ในวันและเวลาราชการและสามารถให้ผู้อื่นยื่นเรื่องแทนได้ แต่จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจและเอกสารต่าง ๆ มาแสดงด้วย หรือถ้าใครไม่สะดวกเดินทางช่วงโควิด-19 จะยื่นเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ก็ได้เช่นกัน โดยใช้เอกสาร ดังนี้
- เอกสารประกอบการยื่นคำขอประโยชน์ทดแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ผู้ประกันตนกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอ
- สำเนาสูติบัตรบุตร 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
- สำหรับผู้ประกันตนชายให้แนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส
- สำเนาบัญชีธนาคารหน้าแรก
หลังจากคุณได้ยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสิทธิประกันสังคมแล้วติดต่อให้คุณมารับเงินภายหลัง ซึ่งจะเลือกเข้ามารับเงินด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ตัวเเทนเข้ามารับเงินที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ หรือจะเลือกโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของคุณก็ได้
แม้ว่าจะมีสิทธิประกันสังคม แต่ความคุ้มครองอาจจะไม่ได้ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ เหล่าคุณแม่จึงควรมีตัวช่วยดี ๆ อย่างประกันสุขภาพเอาไว้ช่วยดูแลอีกทาง จะได้อุ่นใจเรื่องการรักษาและพักฟื้น แถมยังเบาใจเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ต้องนี่เลย! ประกันสุขภาพ จาก Rabbit finance ที่ให้คุณเปรียบเทียบได้กับเบี้ยประกันที่หลากหลาย และสามารถซื้อประกันออนไลน์อื่น ๆ ได้แค่ปลายนิ้วคลิก!
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th