Site icon Motherhood.co.th Blog

โยคะเด็ก อาสนะง่าย ๆ ที่เด็กก็ทำได้

โยคะเด็กมีประโยชน์

ลองให้เด็ก ๆ ได้ฝึกโยคะกันดู แล้วจะพบประโยชน์มากมาย

โยคะเด็ก อาสนะง่าย ๆ ที่เด็กก็ทำได้

ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าการทำโยคะส่งผลดีต่อสุขภาพและบุคลิกเรามากมาย หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกน้อยได้ลองทำความรู้จักกับโยคะ เราก็มี “โยคะเด็ก” แบบที่ไม่ยากมาฝากกันค่ะ เป็นอาสนะพื้นฐานที่เด็ก ๆ สามารถทำได้ภายใต้การดูแลของคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้าน ลองติดตามกันได้เลย

5 เหตุผลที่ควรให้ลูกฝึกโยคะ

การฝึกโยคะในเด็กนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกเริ่มฝึกได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงอายุที่เด็กพร้อมจะรับฟังคำสั่งได้ โดยประโยชน์ของการฝึกโยคะนั้นสามารถช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กได้ทั้งทางด้านร่างกายและด้านจิตใจ ดังนี้

1. ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่

การให้เด็ก ๆ ฝึกโยคะนั้นจะช่วยในการพัฒนาท่าทางและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทำให้เด็กได้ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้อย่างเหมาะสม เหมือนกับการเดิน การวิ่ง การกระโดด การทรงตัว และการเคลื่อนไหวในรูปแบบอื่น

2. ช่วยเรื่องสมาธิและความสนใจ

การฝึกโยคะนั้นสามารถช่วยให้เด็กเล็กเพิ่มความสนใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้นานมากขึ้น ช่วยให้เด็กจดจ่อและมีสติอยู่กับสิ่งที่กำลังทำ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนและการทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็ก

โยคะช่วยเรื่องสมาธิและอารมณ์ของเด็กได้มาก

3. ช่วยให้รู้จักวิธีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างปลอดภัย

การฝึกโยคะจะช่วยทำให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวร่างกาย เนื่องจากการตอบสนองของเด็กนั้นจะไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ โดยมากเด็กจะไม่พาให้ตัวเองเข้าสู่ความเจ็บตัว ดังนั้น ถ้ามีสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัด เด็กก็จะหยุดหรือเลิกที่จะทำอาสนะนั้น ซึ่งในเด็กเล็กนั้นมีความสามารถในการจัดการการเคลื่อนไหวของตัวเองให้อยู่ในระดับที่พวกเขารู้สึกสบายและไม่อึดอัดได้ดี

4. ช่วยจัดการกับความเครียด ความวิตกกังวล และควบคุมอารณ์

โยคะจะสอนให้เด็ก ๆ ได้รู้จักวิธีการหายใจและการแสดงออก ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นทักษะอันสำคัญสำหรับการจัดการความเครียด ความวิตกกังวล อีกทั้งยังช่วยลดความก้าวร้าวและความรู้สึกด้านลบอื่น ๆ ทำให้เด็กใจเย็นขึ้นและสามารถรับฟังเหตุผลจากผู้ใหญ่ได้

5. สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

เพราะในวัยเด็กคือช่วงวัยที่มีความสนุกสนาน การได้ทำอาสนะท่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจะทำให้พวกเขามีความมั่นในใจในการขยับร่างกายมากขึ้น และกล้าที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองมากขึ้นตามไปด้วย

5 ท่าโยคะสำหรับเด็ก

01/05 มะหมาเพื่อนรัก

“มะหมาเพื่อนรัก” ท่ายืนแบบคู่ที่เป็นท่าทางเลือก (variation) ของท่า downward-facing dog (สุนัขแลลง) เด็ก ๆ สามารถทำได้ที่บ้าน ในช่วงก่อนนอนกับพ่อแม่หรือพี่น้อง เด็ก ๆ ควรยืนหันหน้าเข้าหากันแล้วค่อย ๆ วางมือบนไหล่ของอีกฝ่าย จากนั้นก้าวถอยหลังและงอตัวไปข้างหน้าด้วยการผลักสะโพก ทิ้งศีรษะลงเพื่อพักระหว่างแขน หายใจเข้าและหายใจออกหลายครั้ง แล้วปล่อยให้ไล่ได้ยืดเหยียด ท่ามะหมาเพื่อนรักเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ hamstrings (กล้ามเนื้อของขาด้านหลังที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกระดูกรองนั่ง ลากยาวมาจนถึงด้านหลังของหัวเข่า) ซึ่งสามารถช่วยลดผลกระทบจากการนั่งนาน ๆ เมื่อได้ทำท่านี้ เราจะได้ยืดแขนและไหล่ในเวลาเดียวกันกับที่เรายืดเหยียดเอ็นร้อยหวาย บั้นท้าย และยืดกระดูกสันหลัง

02/05 สายฟ้าฟาด

ท่าสายฟ้า (Supta Vajrasana) เป็นท่าที่ยากกว่าเป็นท่าทางเลือก (variation) ของท่านักรบ หลังจากบั้นท้ายระหว่างส้นเท้า ให้ลดลำตัวลงไปที่พื้นและยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจเข้าและออก ค้างอยู่ในท่า ก่อนที่จะนำแขนกลับไปด้านข้างลำตัว และกลับขึ้นมาจากท่า การทำท่าสายฟ้านี้จัดเป็นการยืดตัวที่รุนแรงมากทีเดียว

03/05 ผีเสื้อเอนกาย

ท่าผีเสื้อแบบเอนตัวนี้ (Supta Baddha Konasana) เป็นท่าที่เปิดสะโพกและขาหนีบอีกท่า ซึ่งท่านี้ยังช่วยให้เด็ก ๆ สงบลงและคลายความตึงที่บริเวณหลังส่วนล่าง เริ่มเข้าท่าผีเสื้อโดยการนั่งตัวตรงและนำฝ่าเท้ามาชนกันเป็น “ปีกผีเสื้อ” จากนั้นใช้มือช่วยพยุงลงเบา ๆ จนกระทั่งหลังแนบอยู่กับพื้น จากนั้นกางแขนออกโดยให้ฝ่ามือหงายขึ้น และหลับตาหายใจลึก ๆ หลายครั้ง

04/05 ต้นไม้

ท่าต้นไม้ (Vrikshasana) จะช่วยฝึกสมาธิและการทรงตัว และเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขนและขา โดยเริ่มจากการนั่งยอง ๆ และค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ เขย่งปลายเท้าทั้งสองข้าง หรืออาจจะยกขาหนึ่งข้างมาพักไว้ที่เข่าอีกข้างโดยแนบฝ่าเท้าไว้ จากนั้น นำฝ่ามือประกบกันไว้ที่อกหรือยกแขนขึ้นเหนือศรีษะ ค้างไว้ พร้อมหายใจแบบเข้าออกลึก ๆ

05/05 เด็กน้อย

ท่าเด็กน้อย (Balasana) ช่วยยืดหยุ่นกล้ามเนื้อลำตัว สะโพก ต้นขา และช่วยยืดหยุ่นข้อต่อต่าง ๆ เริ่มจากการนั่งคุกเข่าโดยให้หลังเท้าแนบชิดกับพื้น กดสะโพกนั่งลงทับบนส้นเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นโค้งลำตัวลงช้า ๆ จนหน้าผากแตะชิดพื้น วางลำคอให้ตรง จากนั้นค่อย ๆ ไต่มือไปอยู่เหนือศีรษะและกดฝ่ามือลงชิดกับพื้น ผลักสะโพกไปด้านหลังเพื่อยืดกล้ามเนื้อหลัง ค้างท่าไว้

เสื่อโยคะจะช่วยกันลื่นและรองรับน้ำหนักได้ดี

ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?

เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ควรมีเสื่อโยคะ เบาะปูรอง พรมปูพื้น ผ้ารอง หรืออื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน จุดประสงค์ของการใช้เสื่อโยคะก็เพื่อปูรองพื้นไม่ให้ตัวเปื้อน หรือเพื่อลดความเจ็บปวดในการกดทับของน้ำหนักตัวกับพื้นในกรณีที่เป็นการฝึกบนพื้นปูนหรือพื้นไม้ เสื่อโยคะมีหลายแบบและหลายราคา คุณพ่อคุณแม่จะเลือกแบบใดก็ได้ตามที่ชอบ ซึ่งคุณสมบัติของเสื่อที่ดีคือ ไม่ควรมีผิวสัมผัมที่ลื่นหรือมันจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ฝึกโยคะลื่นหรือทรงตัวได้ยาก นอกจากนี้ เสื่อควรทำจากวัสดุที่สามารถเช็ดหรือทำความสะอาดได้ง่าย

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าเด็กฝึกโยคะได้ไหม ก็คงได้ทราบผ่านบทความนี้แล้วนะคะว่าโยคะก็มีประโยชน์หลายอย่างสำหรับเด็ก ๆ เช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ลองนำไปฝึกร่วมกับลูกที่บ้านได้เลยนะคะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th