โอกาสในการท้อง แบ่งตามช่วงอายุของว่าที่คุณแม่
Motherhood อยากให้ว่าที่คุณแม่ลองทำความคุ้นเคยกับสถิติการตั้งครรภ์เหล่านี้ตามอายุ เพื่อที่คุณจะสามารถเพิ่ม “โอกาสในการท้อง” ของคุณในช่วง 20 30 40 และช่วงอายุอื่น ๆ ถ้าหากอยากรู้ ต้องติดตามอ่านนะคะ
พื้นฐานก็คือ ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับจำนวนไข่ตั้งแต่ 1-2 ล้านฟอง และนั่นคือไข่ทั้งหมดที่คุณจะมีในชีวิต เมื่อช่วงเวลาที่รอบเดือนครั้งแรกของคุณมาถึง จำนวนไข่ที่คุณมีจะลดลงเหลือแค่ 300,000 ฟอง
หากผู้หญิงตกไข่ 500 ครั้งระหว่างอายุ 12-52 ปี และหากไข่ทุกฟองไม่ใช่ไข่มีสุขภาพดีไปเสียทั้งหมด สิ่งที่คุณจะเหลือก็คือไข่เพียงจำนวนหนึ่งที่มีความสามารถพอสำหรับการตั้งครรภ์ แต่จะเป็นการดีกว่าหากคุณรู้อัตราการคิดในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด
ช่วงต้นอายุ 20 (20 ถึง 24)
เป็นช่วงที่วิเศษที่สุดในการสร้างเจ้าตัวน้อย ในผู้หญิงอายุ 21 ปีคนหนึ่ง 90% ของไข่ที่เธอมีจะมีโครโมโซมที่เป็นปกติ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีโอกาสตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี ค่าเฉลี่ยความอุดมสมบูรณ์ของผู้หญิงสูงสุดตอนอายุ 24 ปี
ผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มีโอกาสร้อยละ 96 ของการตั้งครรภ์ในหนึ่งปี หากพวกเขาพยายามในแต่ละเดือน หากฝ่ายชายอายุต่ำกว่า 25 ปี อัตราเดิมพันจะลดลงเหลือ 92% นั่นเป็นเพราะปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ในหมู่คู่รักอายุน้อยจะตกอยู่ที่ฝ่ายชายเสียเป็นส่วนใหญ่ วึ่งโดยทั่วไปสามารถรักษาได้ง่าย และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เว้นแต่จะกินเวลานานเกิน 1 ปี
ช่วงกลางถึงปลาย 20 (25 ถึง 29)
ตั้งแต่อายุ 25-34 คุณจะมีโอกาส 86% ที่จะมีครรภ์หลังจากพยายามเป็นเวลา 1 ปี โอกาสในการแท้งบุตรของคุณอยู่ที่ 10% ซึ่งถือว่าสูงกว่าในช่วงต้นยุค 20 ของคุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำสิ่งที่คุณทำไปเรื่อย ๆ และคุณจะมีลูกได้ภายใน 1 ปี ไม่จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจนกว่าคุณจะพยายามมานานเกินกว่า 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเสียที
ช่วงต้นอายุ 30 (30 ถึง 34)
โอกาสในการตั้งครรภ์ของคุณยังคงสูงถึงอัตราความสำเร็จ 86% สำหรับคู่รักที่พยายามตลอดทั้งปี การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพียงอย่างเดียวคือโอกาสในการแท้งบุตรของคุณเมื่ออายุ 30 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20
ภูมิปัญญาแต่โบราณกล่าวว่าคุณไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ในช่วงต้นอายุ 30 จนกว่าคุณจะได้ลองเป็นเวลา 1 ปีโดยที่ไม่มีโชค แต่แพทย์บางคนแนะนำให้ปรึกษาแพทย์หากคุณยังมีปัญหาหลังจากนานเกิน 9 เดือน เพื่อที่แพทย์จะสามารถระบุปัญหาใด ๆ และปฏิบัติต่อคุณ ก่อนที่ความอุดมสมบูรณ์ของคุณจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากอายุ 35
ช่วงกลางถึงปลาย 30 (35 ถึง 39)
คุณยังมีแนวโน้มที่ดีสำหรับการตั้งครรภ์ในช่วงอายุนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนอายุ 37 ปี เมื่ออายุได้ 35 ปี ผู้หญิงส่วนใหญ่มีโอกาสตั้งครรภ์ 15-20% ในแต่ละเดือน ซึ่งอาจหมายถึงโอกาสร้อยละ 78 ของการตั้งครรภ์ภายใน 1 ปี
แต่อายุ 35 นั้นดูเหมือนจะเป็นจุดที่ภาวะเจริญพันธุ์ลดลง ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือคุณภาพของไข่ที่ลดลง คุณอาจมีไข่จำนวนมากที่จะใช้งาน แต่พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีข้อบกพร่องของโครโมโซม ที่ส่งผลต่อความมีชีวิตของพวกมัน นอกจากนี้คุณยังมีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การตั้งครรภ์ดาวน์ซินโดรม หรือการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติอื่น ๆ
ประมาณร้อยละ 30 ของผู้หญิงอายุ 35 อาจใช้เวลาหนึ่งปีหรือมากกว่าในการตั้งครรภ์ แพทย์ไม่ต้องการให้คุณรอนานขนาดนั้นเพื่อดูว่าคุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ และหากคุณมีปัญหาในการตั้งครรภ์หลังจาก 6 เดือน ให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการทดสอบ การผสมเทียมในมดลูกเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ซึ่งอาจใช้งานได้ แต่การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) อาจเป็นทางเลือกในการรักษาที่ดีเช่นกัน
ช่วงต้นอายุ 40 (40 ถึง 44)
ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นคุณภาพของไข่และปริมาณจะลดลง ในขั้นตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับความท้าทายบางประการที่ทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ยากขึ้น เพราะเมื่อผู้หญิงอายุ 40 ปี 90% ของไข่จะผิดปกติทางโครโมโซม
ความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีการสืบพันธุ์เป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในเวลานี้ และไม่ใช่เพียงเพราะปัญหาเรื่องไข่ อาจมีปัญหามากขึ้นกับทางฝ่ายชายที่มีอายุมากกว่า และมีรายงานว่าผู้หญิงบางคนมีปัญหาเยื่อบุมดลูกเพิ่มขึ้นตามอายุ เยื่อบุโพรงมดลูกจะบางลงและปริมาณเลือดลดลงตามอายุ ทำให้การฝังไข่ทำได้ยากขึ้น
ผู้หญิงที่เข้าใกล้วัยหมดประจำเดือนอาจเห็นว่าวงจรรอบเดือนของพวกเขาสั้นลง (การเริ่มต้นของวัยหมดประจำเดือนโดยทั่วไประหว่างอายุ 40-60 ปี) นั่นหมายความว่าเมื่อวงจรสั้นลง การตกไข่จะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในรอบทันทีในวันที่เก้า คุณจึงต้องแน่ใจว่าคุณปรับเวลาของการมีเพศสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับการตกไข่ กฎสำหรับว่าที่คุณแม่วัยนี้คือการมีเพศสัมพันธ์ทุกวันในช่วงเวลาของการตกไข่ สัญญาณที่ดีที่บ่งบอกคุณเข้าใกล้การตกไข่คือการเพิ่มการผลิตของมูกในปากมดลูกที่ชัดเจน
สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปการรักษาด้วยการผสมเทียมนั้นมีอัตราความสำเร็จต่ำ ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หากหญิงอายุ 42 ปีมีตัวอ่อน 5 ตัว แปลว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ 10-20% (หากการตั้งครรภ์ทำได้สำเร็จมีโอกาส 20% ที่จะเป็นครรภ์แฝด) สำหรับผู้หญิงที่มีปริมาณไข่ต่ำและผลิตตัวอ่อนเพียงไม่กี่ตัว หรือสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 43 ปี การบริจาคไข่คือทางเลือกที่ดีที่สุด
ช่วง 45 ขึ้นไป
เมื่ออายุ 45 ความเป็นไปได้ที่ผู้หญิงจะตั้งครรภ์มีไม่เกิน 3-4% ไม่ได้บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์นั้นมีความจำเป็นเกือบทุกครั้ง ดซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วเป็นที่นิยมที่สุด
ไข่ที่คุณยังพอมีเหลืออาจมีความผิดปกติของโครโมโซม ดังนั้นการคัดกรองก่อนผสมเทียมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง อัตราความสำเร็จอยู่ที่ 0-1% และคลินิกส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ไข่ที่สตรีอายุน้อยกว่าบริจาคให้สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์ระหว่างอายุ 46-50 ปี
สำหรับผู้หญิงในช่วงกลาง 40 ที่ต้องการตั้งครรภ์แบบธรรมชาติ การใช้ไข่ผู้บริจาคเป็นทางออกที่ดีที่สุด มันค่อนข้างง่ายสำหรับผู้หญิงที่มีสุขภาพดีที่จะประสบความสำเร็จและรักษาระดับการตั้งครรภ์ หากไข่นั้นมาจากผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงในช่วงอายุ 25-30 ปี แม้ว่าจะอยู่ในวัยหมดประจำเดือน แต่อัตราความสำเร็จอยู่ที่ประมาณ 60-65%
วิธีการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ในทุกช่วงอายุ
คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ในแต่ละเดือนโดยไม่คำนึงถึงอายุของคุณโดยการคำนวณวันตกไข่ การตกไข่มักเกิดขึ้น 14 วันก่อนการมีรอบเดือนครั้งถัดไป ไม่ว่ารอบการทำงานของมันจะนานแค่ไหน ตัวอย่างเช่นหากคุณมีรอบ 34 วัน คุณจะตกไข่ประมาณวันที่ 20 ผู้หญิงที่มีรอบ 26 วัน จะตกไข่ในวันที่ 12 ไม่ว่าวันที่คุณตกไข่จะเป็นวันไหน ควรวางแผนว่าจะมีเพศสัมพันธ์ใน 5 วันก่อนวันตกไข่ และใน 2 วันหลังจากนั้น
คุณจะรู้ว่าคุณกำลังใกล้จะตกไข่เมื่อคุณเริ่มมีมูกปากมดลูกที่ใสและลื่น ซึ่งเริ่มจาก 1-4 วันก่อนไข่ตก อีกตัวช่วยที่ดีคือชุดตรวจการตกไข่ เมื่อมันแสดงว่าคุณพร้อมที่จะตกไข่ ให้มีเพศสัมพันธ์ในอีก 2 วันข้างหน้า เพื่อจับช่วงเวลาอันอุดมสมบูรณ์นี้ไว้ คุณมีเวลา 24-36 ชั่วโมง ที่จะมีเพศสัมพันธ์เพื่อทำให้มันอยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุด
หลังจากที่รู้ช่วงอายุที่มีโอกาสในการตั้งครรภ์กันไปแล้ว ก็หวังว่าจะช่วยให้ว่าที่คุณแม่วางแผนได้ถูกต้องมากขึ้นนะคะ และเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้หญิงที่มีอายุประมาณนึงแล้ว ที่จะได้ประเมินว่าหากอยากมีลูกในช่วงอายุนี้ เราควรต้องอาศัยตัวช่วยหรือไม่ อย่างไร
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th