Site icon Motherhood.co.th Blog

Covid-19 สายพันธ์ุใหม่ ติดเชื้อง่ายขึ้น ระบาดแล้วในอังกฤษ

COVID-19 สายพันธ์ุใหม่ในอังกฤษ

พบ Covid-19 สายพันธ์ุใหม่ในอังกฤษ ติดเชื้อง่ายกว่าเดิม แต่ไม่ได้รุนแรงมาก

Covid-19 สายพันธ์ุใหม่ ติดเชื้อง่ายขึ้น ระบาดแล้วในอังกฤษ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง แต่ที่อังกฤษนั้นกลับพบว่ามี “Covid-19 สายพันธ์ุใหม่” เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ผู้คนติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิม ในขณะที่ความรุนแรงของโรคยังคงมีเท่าเดิม

การแพร่ระบาดของ Covid-19 ในประเทศอังกฤษที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไวรัสที่ระบาดอยู่นั้นเป็น Covid-19 สายพันธ์ุใหม่ ที่ถูกตั้งชื่อว่า ‘VUI-202012/01’ ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมออกมา มีหลายคนเชื่อว่า VUI-202012/01 เป็นสายพันธ์ุที่แพร่เชื้อได้เร็วขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย แต่ภายหลังหัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์อังกฤษได้ออกมาบอกว่าอังกฤษพบเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่จริง แต่ยังไม่พบหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้จะก่อให้เกิดอาการรุนแรงขึ้น รวมถึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่นี้จะแพร่กระจายได้เร็วขึ้นจริงหรือไม่

การกลายพันธุ์ที่พบในอังกฤษและยุโรปตอนนี้คือ สายพันธุ์ GV

ระบบ Global Initiative on Sharing All Influenza Data (GISAID) ได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างของยีนพันธุกรรมของ Covid-19 มากกว่ากว่า 185,000 ยีน ซึ่งยีนเหล่านี้ถือเป็นฐานข้อมูลของยีนเชื้อ Covid-19 ที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการสายพันธุ์สำคัญของเชื้อ Covid-19 ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยสายพันธุ์แรกที่มีการค้นพบในเมืองอู่ฮั่นคือ สายพันธ์ุ L จากนั้นในช่วงต้นปี 2020 มันได้กลายพันธ์ุเป็นสายพันธุ์ S และกลายพันธ์ุอีกครั้งจนเป็น V และ G ตามลำดับ โดยสายพันธุ์ G ยังได้กลายพันธุ์ต่อไปเป็นสายพันธุ์ GR GH และ GV ส่วนการกลายพันธ์ุที่พบในอังกฤษและยุโรปตอนนี้คือ สายพันธุ์ GV และอาจจะมีการกลายพันธ์ุต่อไปอีกได้ เนื่องจากมันเป็นวิวัฒนาการของชีวิตไวรัส เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่ครั้งแรกที่เราต้องเผชิญหน้ากับการกลายพันธ์ุของโรคดังกล่าว

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่าจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ทำให้เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ไวรัสได้มีการกลายพันธุ์ เพิ่มความสามารถในการเกาะติด และเข้าสู่เซลล์ของมนุษย์ โดยมีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโนที่ตำแหน่ง 501 เรียกว่า N501Y ส่งผลให้ส่วนหนามที่เปลือกนอกของไวรัสเกิดการเปลี่ยนแปลงจุดที่จับกับเซลล์มนุษย์ หรือที่เรียกว่า Receptor Binding Protein ส่งผลให้ไวรัสชนิดใหม่นี้มีการแพร่กระจายเร็วกว่าไวรัสรุ่นก่อนถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทีเดียว

Patrick Vallance หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า ไวรัสชนิดใหม่นี้จะทำให้อัตราการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนสูงขึ้น และหากย้อนไปดูสถิติ ไวรัสตัวนี้ถูกพบระบาดครั้งแรกในเดือนกันยายน ที่กรุงลอนดอน และในเดือนพฤศจิกายนพบว่ามีผู้ป่วยกว่า 28 เปอร์เซ็นเป็นผู้ที่ติดเชื้อด้วยไวรัสสายพันธ์ุใหม่นี้ และจากการวัดผลล่าสุดคือในวันที่ 9 ธันวาคม พบว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเป็น 62 เปอร์เซ็นต์

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ยังไม่สามารถเอาชนะวัคซีนที่อังกฤษมีอยู่ในตอนนี้ได้

แต่นับว่ายังเป็นข่าวดีที่ไวรัสสายพันธ์ุใหม่นี้ไม่ได้มีความรุนแรงมากไปกว่าไวรัสสายพันธ์ุเดิม หรืออาจจะรุนแรงน้อยกว่าด้วยซ้ำ รวมถึงมันยังไม่สามารถเอาชนะวัคซีนที่อังกฤษมีอยู่ในตอนนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ตามทฤษฎีแล้ว มีโอกาสที่ไวรัสจะเปลี่ยนแปลงการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกัน แต่มันยังเป็นเรื่องของอนาคต เนื่องจากตอนนี้เรายังไม่เห็นหลักฐานว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ทางด้าน Dr.Neville Sanjana จากศูนย์ New York Genome Center ยังกล่าวเสริมว่า โดยทั่วไปแล้วการกลายพันธุ์ของไวรัสเพียงครั้งเดียวจะยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพของวัคซีนที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ แต่ก็ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งวางใจ และยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มงวดเช่นเดิม

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th