ค้นพบ “Disease X” ที่คองโก ระบาดเร็วยิ่งกว่า Covid-19
เริ่มต้นปี 2021 มาไม่ทันไร โลกเราก็ต้องพบเจอกับโรคใหม่ “Disease X” ที่สร้างความท้าทายให้กับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเป็นอันมาก โรคที่เราค้นพบใหม่นี้คืออะไร ผู้ติดเชื้อจะมีอาการเช่นไร เรามาติดตามรายละเอียดกันค่ะ
ในช่วงปลายปี 2020 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งมีอาการคล้ายโรคอีโบล่า เธอถูกนำไปตรวจและได้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจคือเธอไม่ได้ป่วยเป็นโรคอีโบล่า ทุกคนจึงเกิดคำถามว่าแล้วมันคือโรคอะไรกันแน่ หรือเธอจะป่วยเป็นโรคชนิดใหม่
Disease X นี้ เป็นโรคในทางทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกำลังกังวลว่าอาจนำไปสู่การระบาดที่ร้ายแรงทั่วโลก ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุไว้ว่า “X” ย่อมาจากสิ่งที่ไม่คาดคิด มันสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลกได้เร็วพอ ๆ กับ Covid-19 เลยทีเดียว แต่มันก่อให้เกิดอัตราการเสียชีวิตประมาณ 50-90% ของโรคอีโบลา ซึ่งปกติแล้วจะพบอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 39.5 % เท่านั้น
“เราทุกคนต้องหวาดผวา” Dr. Dadin Bonkole แพทย์ของผู้ป่วยกล่าว “เพราะมันไม่ใช่อีโบลา ไม่ใช่โควิด เราต้องกลัวโรคใหม่แล้วตอนนี้” ทางด้านศาสตราจารย์ Jean-Jacques Muyembe Tamfum หนึ่งในผู้ค้นพบไวรัสอีโบลาในปี 1976 และเป็นแนวหน้าของการตามล่าหาเชื้อโรคใหม่ ๆ กล่าวว่า “มนุษยชาติต้องเผชิญกับไวรัสชนิดใหม่ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นจากป่าฝนเขตร้อนของแอฟริกา” เขากล่าวกับ CNN ว่า “ตอนนี้เราอยู่ในโลกที่เชื้อโรคชนิดใหม่จะโผล่มา และนั่นคือสิ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ”
ในฐานะนักวิจัยรุ่นใหม่ Muyembe ได้เก็บตัวอย่างเลือดครั้งแรกจากเหยื่อของโรคลึกลับที่ทำให้เกิดอาการตกเลือด และโรคได้คร่าชีวิตผู้ป่วยประมาณ 88% และ 80% ของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในโรงพยาบาล Yambuku Mission เมื่อพบโรคนี้ ขวดเลือดถูกส่งไปยังเบลเยียมและสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อมานักวิทยาศาสตร์พบไวรัสรูปตัวหนอน พวกเขาเรียกมันว่าอีโบลา
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจำนวนไวรัสที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่มนุษย์ทำลายระบบนิเวศ ตัดไม้ทำลายป่า และการค้าสัตว์ป่า เมื่อแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันหายไป สัตว์เช่น หนู ค้างคาว และแมลงจะอยู่รอดเมื่อสัตว์ขนาดใหญ่ถูกกำจัดออกไป ซึ่งพวกมันสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ แต่มันมักจะกลายเป็นพาหะนำโรคใหม่ ๆ มาสู่มนุษย์
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งตามหาต้นตอของโรคลึกลับดังกล่าวในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณป่าดิบชื้น เพื่อให้สามารถศึกษาและหาทางเตรียมตัวหรือป้องกันได้ทัน ก่อนที่เกิดการระบาดไปทั่วในอนาคต
ความกลัวในการเผชิญหน้ากับไวรัสตัวใหม่ที่อันตรายถึงตายยังคงมีอย่างมากในพื้นที่ เพราะหลังจากการฟื้นตัวของผู้ป่วยหญิงที่แสดงอาการคล้ายอีโบลา ตัวอย่างของเธอได้รับการทดสอบในสถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งชาติคองโก (INRB) ซึ่งพวกเขาได้ทำการทดสอบเพิ่มเติมสำหรับโรคอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกัน ผลปรากฏว่าเป็นลบทั้งหมด นั่นจึงทำให้อาการป่วยที่ส่งผลกระทบต่อเธอนั้นยังคงเป็นปริศนา ซึ่ง Muyembe คิดว่าการระบาดของโรคนี้ในอนาคตอาจเลวร้ายยิ่งกว่าโควิด-19 เสียอีก
ห้องปฏิบัติการของ INRB ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาและองค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่เปรียบเสมือนเระบบเตือนภัยล่วงหน้าของโลก สำหรับการระบาดของโรคที่เป็นที่รู้จัก เช่น อีโบลา และที่สำคัญกว่านั้นคือสำหรับความเจ็บป่วยชนิดใหม่นี้ที่เรายังไม่ค้นพบที่มา
“หากเชื้อโรคเกิดขึ้นจากแอฟริกาจะต้องใช้เวลาในการแพร่กระจายไปทั่วโลก” Muyembe กล่าว “ดังนั้น หากตรวจพบไวรัสนี้เร็ว เช่นที่สถาบันของผม จะถือเป็นโอกาสสำหรับยุโรปและทั่วโลกในการพัฒนากลยุทธ์ใหม่เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคชนิดใหม่เหล่านี้”
เขามีทีมงานแนวหน้าที่ทำสงครามต่อต้านเชื้อโรคใหม่ ๆ แพทย์ นักไวรัสวิทยา และนักวิจัยกำลังทำงานเชิงลึกเพื่อค้นหาไวรัสทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ก่อนที่พวกมันจะก่อให้เกิดการระบาดใหม่ ๆ
สัตว์ที่ยังเป็น ๆ อยู่ในตลาดสดเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่พอดู ทั้งจระเข้ หอยทากบกยักษ์ เต่าทะเล และเต่าน้ำจืด อีกทั้งยังมีสัตว์อีกส่วนที่มาจากตลาดมืด เช่น ลิงชิมแปนซีเป็น ๆ สัตว์แปลกอื่น ๆ ที่บางส่วนถูกนำมาแลกเปลี่ยนเป็นของสะสม และบางส่วนก็มุ่งหน้าไปเป็นอาการ ซึ่ง “Disease X” อาจกำลังระบาดอยู่ภายในสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งเหล่านี้ ที่ถูกนำมาสู่มหานครโดยคนยากจนที่ให้บริการอาหารและสัตว์เลี้ยงแนวแปลกแก่บรรดาเศรษฐี
กลับไปที่โรงพยาบาล Ingende แพทย์จะสวมอุปกรณ์ป้องกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แว่นตา ชุดคลุมสีเหลืองสำหรับวัตถุที่มีอันตรายทางชีวภาพ ถุงมือสองชั้นปิดเทป หมวกคลุมศีรษะและไหล่ ปลอกสวมรองเท้า และหน้ากากอนามัยชนิดที่ซับซ้อน
พวกเขายังคงกังวลว่าผู้ป่วยหญิงอาจแสดงอาการคล้ายโรคอีโบลา แต่ไม่ได้เป็นโรคอีโบลา มันอาจเป็นไวรัสตัวใหม่ อาจเป็นหนึ่งในหลาย ๆ โรคที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้คนที่นี่ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์ แต่ไม่มีการทดสอบใดที่อธิบายถึงอาการไข้สูงและท้องเสีย
“เราได้รับเคสที่ดูเหมือนอีโบลามาก แต่เมื่อเราทำการทดสอบกลับได้ผลเป็นลบ” หัวหน้าฝ่ายบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาล Ingende Dr. Christian Bompalanga กล่าว “เราต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยสองสามรายอยู่ที่นั่น” เขากล่าวเสริมพร้อมชี้ไปที่หอผู้ป่วยแยกที่หญิงสาวและลูก ๆ อยู่ ซึ่งกำลังเข้ารับการรักษา และหลายสัปดาห์ต่อมาก็ยังไม่มีการวินิจฉัยที่ชัดเจนสำหรับอาการป่วยของเธอ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th