Site icon Motherhood.co.th Blog

Drip วิตามิน อันตรายจริงมั้ย ?

การ drip วิตามิน

การ Drip วิตามิน แท้จริงแล้วเป็นอันตรายกับเราหรือเปล่า ?

Drip วิตามิน อันตรายจริงมั้ย ?

“Drip วิตามิน” กำลังเป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทยเราตอนนี้ รวมทั้งในฝั่งตะวันตกก็ปรากฎมีเซเลบริตี้มากมายที่นิยมทำ IV drip แต่การทำเช่นนี้จำเป็นหรือไม่ จะส่งผลเสียอะไรกับเราหรือเปล่า รวมทั้งในกรณีของแม่ตั้งครรภ์ด้วย วันนี้ Motherhood จะมาเจาะลึกเรื่องนี้ให้ได้ทราบกันค่ะ

การฉีดวิตามินคืออะไร ?

การฉีดหรือการ Drip วิตามินหมายถึงการให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ ซึ่งตัวย่อ “IV” ในคำว่า IV Drip นั้นมาจาก Intravenous ที่แปลว่าภายในเส้นเลือดดำ หรือภายในหลอดเลือดดำ

กำลังเป็นกระแสสำหรับผู้รักสุขภาพและความงามทั่วโลก

การ Drip วิตามินมีที่มาอย่างไร ?

แม้ว่าการ Drip วิตามินจะกำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงในฮอลลีวูดและในแวดวงความงามบ้านเรา แต่จริง ๆ แล้วพวกมันมีมาตั้งแต่ยุค 50 ด้วยซ้ำ เมื่อ John Myers แพทย์ชาวสหรัฐฯเริ่มฉีดวิตามินบีและซี รวมทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ป่วยเพื่อรักษาอาการอ่อนเพลีย ไมเกรน และแม้แต่ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

ขณะนี้งานวิจัยตัวใหม่เปิดเผยว่าอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวิตามิน และเซเลบริตี้หลายคนก็เคยได้รับผลข้างเคียงแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นจากการ Drip ในอดีต รวมถึง Kendall Jenner ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในปี 2018 หลังจากมีปฏิกิริยาที่ไม่ดีต่อการ Drip วิตามิน

ในขณะที่การ Drip วิตามินเคยเป็นเรื่องยากที่จะทำและค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสำหรับคนทั่วไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกมันได้ผุดขึ้นมาทุกที่ ตั้งแต่ร้านเสริมสวยที่เปิดตามทางไปจนถึงในศูนย์การค้า โดยบางบริษัทก็จัดส่งตรงถึงบ้าน ด้วยแนวโน้มที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการฉีดวิตามิน IV เสมอ เนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่มีการสอดสาย IV เข้าไปจะทำให้เกิดช่องทางเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง

การกินอาหาร การกินวิตามิน และการฉีด ทำให้เราได้รับวิตามินเท่ากันหรือไม่ ?

การรับวิตามินทางหลอดเลือด การรับประทานอาหารตามปกติหรืออาหารเสริม การทาครีม แตกต่างกันในเรื่องการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย การรับประทานอาหารที่สดใหม่เป็นแนวทางรับวิตามินที่ดีที่สุด แต่การจะได้รับวิตามินในปริมาณที่เพียงพออาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนเพราะมีพฤติกรรมเลือกกิน ทำให้ได้รับวิตามินไม่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบต่าง ๆ จึงกำเนิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้

คนเรากลัวว่าจะได้รับวิตามินไม่เพียงพอเพราะพฤติกรรมการกินไม่ดี

การทำ IV Drip ปลอดภัยหรือไม่ ?

การฉีดวิตามินหรือการทำ IV Drip จะปลอดภัยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่การซักประวัติ การตรวจร่างกายก่อนรับวิตามิน การเลือกชนิดหรือสูตรของวิตามิน รวมถึงต้องมีการประเมินปริมาณวิตามินที่ควรได้รับในแต่ละครั้งอย่างเหมาะสมด้วย

ถึงกระนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายคนกลับมีความเห็นว่าคนที่มีสุขภาพดีไม่จำเป็นต้องให้ IV drips เพราะพวกมันเป็นวิธีที่มีราคาแพง ที่จะทำให้กระเพาะปัสสาวะของพวกเราเต็มและขับถ่ายมันออกไป และอาจจะส่งผลกับสุขภาพของเราด้วย เพราะไตของเรามีหน้าที่รักษาของเหลวในร่างกายให้สมดุล เมื่อตรวจพบว่ามีของเหลวไหลผ่านเส้นเลือดมากเกินไป พวกมันจะทำงานล่วงเวลาเพื่อกำจัดออกทางปัสสาวะ ถุง IV ทั่วไปจะประกอบด้วยของเหลวที่จะถูกนำเข้าไปในหลอดเลือดดำ 250-500 มล. นั่นคือประมาณ 8.5-17 ออนซ์ ซึ่งอาจดูเหมือนไม่มากนัก แต่สำหรับระบบหลอดเลือดดำของคุณแล้ว มันมากไปแน่นอน ความเครียดที่เพิ่มขึ้นในไตทำให้วิธีนี้ถูกห้ามใช้สำหรับทุกคนที่มีการทำงานของไตที่ขัดข้องหรือไตวาย

แต่การรับกลูตาไธโอนไม่ก่อให้เกิดปัญหาเดียวกันนี้ ตัวอย่างเช่น การ Drip กลูตาไธโอน 600 มก. จะทำให้ของเหลวประมาณ 0.1 ออนซ์เข้าสู่หลอดเลือดดำ และโดยทั่วไปการ Drip จะใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาที ถุงวิตามินเต็มรูปแบบที่มีของเหลวมากกว่า 250 มล. โดยทั่วไปจะใช้เวลา 45-60 นาทีในการหยดลงในหลอดเลือดดำ

การที่ร่างกายได้รับวิตามินซีเสริมมากเกินไปไม่ใช่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพสักเท่าไรนักสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพอย่างแท้จริง มีรายงานกรณีที่การให้วิตามินซีทำให้เกิดนิ่วในไตและไตวาย วิตามินซีถูกเผาผลาญเป็นออกซาเลตและขับออกทางปัสสาวะ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วแคลเซียมออกซาเลตโดยเฉพาะในผู้ชาย

การผสมเอาสารอาหารหลายชนิด รวมทั้งวิตามินบีและซี อาจส่งผลให้เกิดการแตกของเม็ดเลือดแดงในผู้ที่มีภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดีที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย การขาดเอนไซม์นี้ทำให้ระดับของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่การทำลายเซลล์ ผู้ที่ต้องการเข้ารับ IV จะต้องได้รับการตรวจคัดกรอง G6PD ในระดับที่เพียงพอสำหรับการให้วิตามินเกิน 15 กรัม ต่อการ Drip IV แต่ละครั้ง น่าเสียดายที่คลินิกบางแห่งไม่สามารถทำเช่นนี้ได้

การให้บริการถึงบ้านอาจจะทำให้ควบคุมความสะอาดได้ไม่ดีนัก

การขาดการประกันคุณภาพ การควบคุมส่วนผสม และการเตรียมถุง IV ที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้มีสารอินทรีย์แปลกปลอมเข้ามาอยู่ในร่างกาย ที่อาจทำให้เกิดความเป็นพิษที่คุกคามถึงชีวิตในผู้ที่อ่อนแอได้ หากผู้ประกอบวิชาชีพเตรียมถุง IV นอกห้องปลอดเชื้อ โดยเฉพาะแบคทีเรีย สามารถเข้าไปในสารละลายได้ซึ่งอาจทำให้ผู้รับ IV มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบ ผู้เตรียมอาจคิดว่าตนเองรู้ว่ากำลังทำอะไร แต่ผสมสารอาหารเข้าด้วยกันซึ่งอาจทำให้สารละลายตกตะกอน นำไปสู่ปัญหาที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หรือใช้สารอาหารหรือสารผสมที่ห้ามใช้กับสภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น การตั้งครรภ์

ส่วนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการรักษาอาการเมาค้างแบบปาฏิหาริย์ได้อย่างรวดเร็วนั้นก็ไม่มีอยู่จริง

มีรายการผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการ Drip วิตามิน ได้แก่ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ ปากแห้ง อ่อนเพลีย เหงื่อออก และอ่อนแรง ภาวะหลอดเลือดดำอักเสบเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อย โดยมีรายงานผู้ป่วยมากกว่า 200,000 รายต่อปีในสหรัฐอเมริกา มันคือภาวะทางการแพทย์ที่เกิดจากความเสียหายของหลอดเลือดดำ ซึ่งมักเกิดจากการบาดเจ็บระหว่างการใส่เข็มฉีดยาและ / หรือการใส่สายสวน อาจทำให้เกิดอาการปวดบวม รู้สึกอุ่น และมีรอยแดงรอบ ๆ หลอดเลือดดำที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับผิวสัมผัสคล้ายเชือกหรือสายไฟของหลอดเลือดดำที่สามารถสัมผัสได้ทางผิวหนังเป็นเวลาหลายวันถึงหลายเดือน หรือแม้แต่หลายปี

แม่ตั้งครรภ์หรือให้นม Drip วิตามินได้หรือไม่ ?

การรับวิตามินยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างดีสำหรับสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร สารละลาย IV หลายชนิดมีพาราเบนหรือเบนซิลแอลกอฮอล์ ซึ่งถือเป็นสารกันบูดตามธรรมชาติ แม้ว่าเบนซิลแอลกอฮอล์โดยทั่วไปจัดว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่การใช้ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมทารกแรกเกิด (ทารกอายุน้อยกว่า 4 สัปดาห์) หรือทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อย อาจทำให้เกิดความเป็นพิษเพราะภาวะเลือดเป็นกรดจากการเผาผลาญและอาจถึงแก่ชีวิตสำหรับทารกน้อยเหล่านั้น เนื่องจากสารละลายใน IV สามารถส่งผ่านไปในน้ำนมแม่

อย่างไรแล้วหากคุณกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมเจ้าตัวน้อยที่อายุยังไม่เกิน 1 ปี ก็ควรเลี่ยงการ Drip วิตามินออกไปก่อนนะคะ ที่สำคัญเลยคือต้องปรึกษาแพทย์ให้ดี ให้แน่ใจว่าเรามีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ยังไม่ดีพอ ทำให้เราได้สารอาหารไม่ครบ และเลือกหาสถานบริการที่ไว้ใจได้ในการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th