แพ้ผงชูรส: ผงชูรสอันตรายจริงหรือแค่เรื่องมโน
ผงชูรสเป็นเครื่องปรุงรสประเภทหนึ่งที่คนในสังคมมีอคติกับมันมานาน รวมถึงอาการ “แพ้ผงชูรส” ที่เป็นเหมือนสิ่งตอกย้ำถึงอันตรายของมัน ว่าหากเราบริโภคเข้าไปแล้วจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ ผงชูรสเป็นตัวอันตรายที่เราควรหลีกเลี่ยงจริงหรือเปล่า
ต้นกำเนิดของผงชูรส
ผงชูรส (Monosodium glutamate – MSG) ถูกค้นพบโดยนักเคมีชาวญี่ปุ่นศจ.ดร. คิคุนาเอะ อิเคดะ ที่พบว่าผลึกสีน้ำตาลที่ตกผลึกจากการระเหยของน้ำซุปคอมบุที่ติดอยู่ในถ้วยซุปนั้นเป็นกรดกลูตามิก เมื่อเขาได้ชิมผลึกนี้ เขาได้สัมผัสกับรสชาติใหม่ที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาจึงได้ตั้งคำว่า ‘อุมามิ’ ขึ้นเพื่อใช้เรียกรสชาตินี้ จากนั้นเขาได้จดสิทธิบัตรวิธีการผลิตผลึกโซเดียมของกรดกลูตามิก โดยใช้ชื่อว่า โมโนโซเดียม กลูตาเมต (Monosodium glutamate) หลังจากนั้น พี่น้องตระกูลซูซูกิก็ได้เริ่มผลิตผงชูรสเป็นครั้งแรกในปี 1909
กรดกลูตามิกนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติหรือจากการหมักบ่ม เราจะพบกรดนี้ได้ในวัตถุดิบหลากหลายชนิด เช่น มะเขือเทศ รากผักชี สาหร่าย เห็ด ชีส หรือกะปิ
วัตถุดิบที่ใช้ผลิตผงชูรส ได้แก่ แป้งมันสำปะหลัง กากน้ำตาลหรือโมลาส (Molass) จากโรงงานน้ำตาล โดยการย่อยสตาร์ช (Starch) ให้เป็นน้ำตาลกลูโคส (Glucose) แล้วเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นกรดกลูตามิก (Glutamic acid) ด้วยการหมัก หลังจากหมักได้ที่แล้ว จึงนำไปทำปฏิกิริยากับโซดาไฟ (NaOH) ได้โมโนโซเดียมกลูตาเมตที่ตกผลึก
การโจมตีผงชูรส
อาการแพ้ผงชูรสคืออะไรกันแน่ ?
ผู้ที่แพ้ผงชูรสจนเกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น ผิวหนังแดง รวมทั้งอาจมีอาการแสบร้อนที่หน้าและคอ อาจเพราะเป็นคนที่มีระบบประสาทสัมผัสไวต่อผงชูรสมากเป็นพิเศษ แม้จะรับประทานไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดอาการได้ สำหรับรายที่รับประทานผงชูรสแล้วรู้สึกชาที่ลิ้น ปาก และลำคอ อาการอาจดีขึ้นได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต หรือเข้าไปสะสมในร่างกาย
ในปัจจุบันนักวิจัยยังไม่พบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ความเกี่ยวข้องระหว่างผงชูรสและอาการแพ้ได้ มีเพียงข้อสันนิษฐานว่าอาการแพ้ผงชูรสอาจเกิดจากการตอบสนองของร่างกายผู้ป่วยที่ไวต่อสารโมโนโซเดียมกลูตาเมต และมีงานวิจัยบางส่วนที่แสดงผลว่า ผงชูรสไม่ได้ก่อให้เกิดอาการแพ้ใด ๆ ทำให้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดของอาการแพ้ผงชูรสได้
ส่วนความเชื่อที่ว่าผงชูรสทำให้ผมร่วง หัวล้าน เป็นเพียงความเชื่อผิด ๆ เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงมาจากทางร่างกายเอง เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน และปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องอาหารการกิน
ใช้ผงชูรสแค่ไหนถึงจะปลอดภัย ?
แม่ท้องต้องงดผงชูรสเลยไหม ?
แม้ว่าการศึกษาไม่ได้เชื่อมโยงผงชูรสกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่การแพ้อาหารและความไวต่อยาเป็นปรากฏการณ์ที่มีจริงสำหรับผู้ตั้งครรภ์ หากคุณเคยมีอาการไม่พึงประสงค์จากอาหารที่มีผงชูรสสูงก่อนตั้งครรภ์ ให้หลีกเลี่ยงในขณะที่คุณกำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์ เพราะคุณคงไม่อยากจะคลื่นไส้ ปวดหัว หรือเหนื่อยล้ามากขึ้นในตอนนี้
อาหารบางชนิดที่มีผงชูรสสูง เช่น ซุปกระป๋อง หรือขนมขบเคี้ยวรสเค็ม อาจมีโซเดียมสูงเช่นกัน ในระหว่างตั้งครรภ์ มันดีกว่าที่จะรักษาโซเดียมให้อยู่ที่หรือต่ำกว่าเป้าหมายที่แนะนำต่อวัน คือ 2,300 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การจำกัดอาหารที่มีผงชูรสสูงบางชนิด
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th